Platform Notebook คืออะไร ??

                สำหรับ Platform Notebook นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ Notebook เลยทีเดียว ซึ่งเจ้าตัว Platform นี้เปรียบเสมือนกับใบการันตีคุณภาพของ Notebook ซึ่งมีไว้รับประกันประสิทธิภาพที่จะได้รับจาก Notebook แสนรักของคุณๆทั้งหลาย ว่าเมื่อเลือกใช้งานอุปกรณ์ทุกชิ้นตาม Platform นั้นๆแล้ว จะได้รับประสิทธิภาพของระบบเป็นอย่างไร เช่น ประหยัดพลังงานมากขึ้น, ทำงานได้เร็วขึ้น หรือตามแต่ที่เจ้าของ Platform นั้นๆได้ออกแบบไว้ ดังนั้นหากอยากได้เครื่องที่มีประสิทธิภาพแบบเต็มเปี่ยมแล้วล่ะก็ ควรเลือกใช้ Notebook ที่มี Platform มาตรฐานต่างๆมารองรับครับ

ปัจจุบันมี Platform อะไรบ้าง ??

                ปัจจุบันนี้ Platform มาตรฐานที่มีมาให้ใช้งานนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 2 Platform ครับ ซึ่งมาจากเจ้าของเดียวกันทั้งหมดนั่นก็คือ บริษัท Intel ยักษ์ใหญ่แห่งวงการคอมพิวเตอร์นั่นเอง Platform ที่ว่าประกอบไปด้วย Centrino และ Centrino2 ครับ ซึ่งในส่วนของ Centrino2 นั้นจะเป็นการพัฒนาขึ้นอีกขั้นของ Platform Centrinoโดยมีความสามารถทางด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แต่มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่ลดลง เรียกได้ว่างานนี้ ดีทั้งขึ้นทั้งร่องเลยครับ และสำหรับในอนาคตอันใกล้นี้คู่แข่งคนสำคัญของทาง Intel นั่นก็คือทางบริษัท AMD ก็กำลังจะปล่อย Platform ของตัวเองออกมาชนกับทาง Intel โดยใช้ชื่อว่า Puma นั่นเองครับ โดยทางส่วนของ Puma นั้น ทาง AMD ได้ออกมาอวดสรรพคุณถึงเรื่องการประหยัดพลังงานที่อยู่ในระดับสูง ในขณะเดียวกันความสามารถทางด้านกราฟิกที่ทาง AMD และ ATI ร่วมกันพัฒนานั้นก็ยังสามารถแสดงผลได้ดีในระดับท็อปของตลาดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นต่างๆมากมายที่ทาง AMD ภูมิใจนำเสนอ เช่น การเชื่อมต่อการ์ดจอแบบภายนอก ทำให้ไม่ต้องใช้การ์ดจอในขณะที่ไม่ต้องการ เพื่อลดการใช้พลังงาน และของเล่นอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหาก AMD วางตลาดเมื่อไหร่ ก็นับว่าน่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จากลูกเล่นต่างๆที่นำมาอวดกันนั้น หนึ่งในนั้นก็ได้กลายมาเป็น มาตรฐานของ Platform ใหม่จากทาง Intel อย่าง Centrino2 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำได้เหนือชั้นกว่าทาง AMD มาก สิ่งนั้นก็คือ เรื่องของการสลับการใช้งาน GPU แบบออนบอร์ด หรือแบบแยก โดยไม่ต้องทำการถอดหรือใส่ Hardware ใดๆแม้แต่น้อย เพียงแค่กดปุ่มก็สลับง่ายๆได้ทันที นับว่าเป็นจุดที่ทาง AMD ต้องแก้เกมส์มาอีกซักหน่อย หากคิดจะวาง Puma มาชนกับทาง Centrino2 ให้สมน้ำสมเนื้อกัน

Platform ตามมาตรฐานต่างๆต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และแต่ละ Platform มีจุดเด่นยังไง ??

                สำหรับในหัวข้อนี้เราจะมาเรียนรู้อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆที่แต่ละ Platform กำหนดกันครับ และจุดเด่นของแต่ละ Platform มีอะไรบ้าง เพื่อเลือกให้ตรงกับความต้องการของตัวคุณมากที่สุดครับ

Centrino

                สำหรับในส่วนของ Platform Centrino นั้น ได้มีมาตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้งานใน Notebook โดยเฉพาะ ซึ่งจะเน้นไปที่การบริหารจัดการทางด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่จะใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น CPU เป็นลักษณะเดียวกับที่ใช้งานบน Desktop PC ทั่วไป ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างมาก และมีระยะเวลาในการใช้งานบนแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างน้อย และนั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Intel Centrino Mobile Technology ขึ้นมา ซึ่งผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่อง Notebook ในปัจจุบัน มีความเทียบเท่ากับเครื่อง Desktop PC ได้แล้ว โดยที่การใช้พลังงานก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เหมาะสำหรับงานทางด้าน Mobile อย่างแท้จริง สำหรับปัญหาของระบบนี้จะมีก็แต่เรื่อง GPU ของ Notebook ที่มีการใช้งาน GPU แบบแยก ซึ่งจะมีการบริโภคพลังงานที่สูงกว่าแบบออนบอร์ด ถึงแม้จะเปิดระบบพลังงานแล้วก็ตาม นอกจากนี้ในส่วนของความร้อนก็มีความร้อนสูงกว่าอีกด้วย ทำให้ทาง Intel ได้พัฒนาแก้ไขปรับปรุงจนกระทั่งเป็นที่มาของ Centrino2 นั่นเอง

ส่วนประกอบที่เป็นมาตรฐานสำหรับ Platform Centrino

                สำหรับในเรื่องส่วนประกอบจะพูดถึงเฉพาะมาตรฐานล่าสุดที่ยังมีวางขายอยู่ในปัจจุบันเท่านั้นครับ คงจะไม่ย้อนไปถึงส่วนประกอบของมาตรฐานในอดีต แต่หากท่านผู้อ่านท่านใดสนใจ ก็สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่เลยครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Centrino

Platform Centrino รุ่นปัจจุบันมีชื่อว่า Santa Rosa ครับ ซึ่งต้องมีส่วนประกอบดังนี้

• โปรเซสเซอร์พกพา Intel® Core™2 Duo
• โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Duo
• ชิปเซ็ต Mobile Intel GM965 Express 
• Intel® Next-Gen Wireless-N technology 

Centrino2

                ในส่วนของ Platform Centrino2 นั้น ได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Centrino ในเรื่องของประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน ซึ่งสำหรับ Centrino2 นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของอุปกรณ์ทุกส่วน โดยในส่วน CPU เปลี่ยนไปใช้ CPU ที่มีรหัสว่า Penryn และได้มีการปรับปรุง FSB ของระบบ ทำให้ความเร็ว FSB ใน CPU ของ Centrino2 นี้เพิ่มขึ้นเป็น 1066 MHz หรือเร็วขึ้น 2 เท่าโดยประมาณ นอกจากนี้ในส่วนของ Chipset และ Wireless LAN ก็ได้เปลี่ยนไปใช้ Intel® GM45 Express Chipset และ Intel® WiFI Link 5000 series ตามลำดับ นอกจากในเรื่องของตัวอุปกรณ์แล้ว Intel Centrino2 นี้ยังมีการปรับปรุงระบบให้มีการทำงานที่ดีขึ้นอีกด้วย ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและพลังงาน เช่น การใช้ระบบ Hybrid ในการสลับการใช้งานระหว่าง GPU แบบแยก และแบบออนบอร์ด เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการใช้งานมากที่สุด ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

สำหรับ Platform Centrino2 รุ่นปัจจุบันมีชื่อว่า Montevina ซึ่งจะต้องมีส่วนประกอบดังนี้

• Next-generation Intel® Core™2 processor
• Mobile Intel® GM45 Express Chipset Family with Intel® Graphics
• Intel® Next-Gen Wireless-N (Intel® WiFI Link 5000 series)
• Intel® 82567LM Gigabit Network Connection