ถ้าไม่นับเรื่องราวของโปรเซสเซอร์ Ivy Bridge เจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Intel ที่กำลังเป็นที่โจษจันในหมู่คนไอที แต่หากใครยังจำได้ก่อนหน้านี้มีกระแสหนึ่งที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน และหัวข้อที่เรากำลังพูดถึงนั้นก็คือไลน์ใหม่ของตลาดโน้ตบุ๊กที่มากับสมรรถนะชั้นยอด กับความสามารถในการพกพาที่ง่ายดายและใช้งานได้ยาวนานไม่แพ้แท็บเล็ต เรากำลังพูดถึงอัลตร้าบุ๊กนั่นเองครับ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้บรรดาค่ายผู้ผลิตก็ต่างงัดเอาอัลตร้าบุ๊กของตนออกมาเรียกความสนใจจากผู้คนได้ดีที่เดียว ซึ่งเราต้องขอเล่าถึงความเป็นมาของเจ้าอัลตร้าบุ๊กกันเสียก่อนนะครับ ว่ามันคืออะไรเป็นมายังไง คำจำกัดความของอัลตร้าบุ๊กก็คือโน้ตบุ๊กประเภทหนึ่งที่ต้องมีเกณฑ์หลักๆ ดังนี้ครับ คือมันต้องมน้ำหนักเบา (ประมาณ 1 กิโลกรัมนิดๆ) กับความเร็วการประมวลผลที่ไม่ต่างจากโน้ตบุ๊ก (พกพาง่าย แต่ประสิทธิภาพดีกว่าเน็ตบุ๊ก) และต้องมากับความบาง รวมไปถึงการเปิดเครื่องหรือปลุกเครื่องที่ใช้เวลารวดเร็วกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป ซึ่งความเป็นมานั้นเราต้องบอกว่ามันเริ่มมาจากการที่ Intel ได้ผลิตโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพดีในความบางเฉียบเพื่อนำไปใช้ใน MacBook Air ของ Apple โดยมีสัญญาระหว่างกันว่า Intel จะต้องไม่นำโปรเซสเซอร์นี้ส่งต่อให้ผู้ผลิตรายอื่นในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้นแล้วก่อนหน้านี้เราจึงเห็นเพียงแค่ MacBook Air ที่มากับความเบาบาง และประสิทธิภาพที่ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป สัญญาที่ Apple กับ Intel ทำร่วมกันนั้นสิ้นสุดลง Intel จึงสามารถเอาโปรเซสเซอร์รูปแบบนี้มาผลิตและส่งให้ค่ายอื่นๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งก็ทำให้เราได้เห็นอัลตร้าบุ๊กกันมากมายในตอนนี้นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจุดประสงค์ของอัลตร้าบุ๊กจริงๆ แล้วไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับ MacBook Air แต่หากสร้างขึ้นเพื่อผลิตโน้ตบุ๊กที่ดี พกพาง่าย ใช้งานได้รวดเร็ว เหมือนกับแท็บเล็ตนั่นเอง
และถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของอัลตร้าบุ๊กนั้นจะไม่ได้นำมาชนกับ MacBook Air โดยตรง แต่ความสามารถและรูปร่างหน้าตาของมันก็อดไม่ได้ที่จะถูกนำมาเปรียบกับผลงานของ Apple อยู่ดี ดังนั้นแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงจุดเด่นของแต่ละฝั่งกันว่ามีข้อดีอะไรที่เหนือกว่ากันบ้างครับ
Where Ultrabooks Beat the MacBook Air: สิ่งที่อัลตร้าบุ๊กเหนือกว่า
SAMSUNG Series 5 Ultrabook อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ใช้งาน
More Choices
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ตลาดโดยรวมนั้นยังไม่ถูก Apple กลืนกินไปทั้งหมดก็มาจากสาเหตุนี้นั่นเองครับ ถึงแม้ว่า Apple จะสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาได้ประทับใจผู้คนส่วนใหญ่ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและความสวยงาม แต่เอาเข้าจริงแล้ว การที่ Apple พัฒนาสิ่งต่างๆ ออกมาให้เป็นเฉพาะของตัวเองนั้นก็ทำให้พวกเขาเสียตลาดโดยรวมไป เนื่องจากโมเดลที่อยู่เพียงน้อยนิดนั้นไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ ดังนั้นอัลตร้าบุ๊กจากค่ายต่างๆ นั้นจึงสามารถใช้จุดนี้เป็นข้อได้เปรียบได้ทันที
เพราะถ้าเราลองเข้าไปยัง Apple Store แล้วคุณจะพบว่า Apple มี MacBook Air ให้เลือกเพียง 4 รุ่นเท่านั้นกับขนาดหน้าจอ 13 และ 11 นิ้ว กับโปรเซสเซอร์ระดับเดียวกันคือ 1.6 และ 1.7 GHz Dual-Core Intel Core i5 เท่านั้น แต่เมื่อเรามองถึงตลาดของอัลตร้าบุ๊กแล้ว คุณจะได้เห็นความหลากหลายของแต่ละรุ่นที่แต่ละค่ายก็เจาะเอาตลาดที่คิดว่ามีคนรองรับ เราจึงได้เห็นอัลตร้าบุ๊กโปรเซสเซอร์ความเร็วมากมายให้เลือก รวมไปถึงเรื่องของวัสดุ กราฟิกการ์ดแบบ Discrete ดีไซน์ที่หลากหลาย รวมไปถึงราคาที่มีให้เราเลือกได้หลากหลายกว่า ทั้งเน้นหน้าจอละเอียดระดับ 1600 x 900 หรือเน้นหน่วยความจำขนาดใหญ่อย่าง SAMSUNG Series 5 หรืออัลตร้าบุ๊กจากค่ายอื่นๆ นั้นก็ถูกสร้างมาอย่างมีจุดแข็งของตัวเอง และเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวของ MacBook Air
Port Options
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานโน้ตบุ๊กที่เน้นการพกพาคือการรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ บน MacBook Air รุ่นปัจจุบันนั้น คุณจะได้เห็นแค่ USB 2.0 2 ช่อง SD Card และพอร์ท Thunderbolt ที่ไม่มีใครใช้ แต่ในขณะที่อัลตร้าบุ๊กจากค่ายอื่นๆ นั้นคุณจะได้เห็นพอร์ทการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และหลายรุ่นนั้นก็ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ HDMI Port เพื่อเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลแบบต่างๆ USB 3.0 ที่รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ท Ethernet (LAN) สำหรับใช้งานในที่ที่ไม่มี Wi-Fi พอร์ทแบบเดิมๆ อย่าง VGA Out ไปจนถึง Optical Drive สำหรับใช้งาน DVD ที่มีอยู่บน SAMSUNG Series 5 ซึ่งคุณจะหเนได้ว่าพอร์ทที่ได้มากับอัลตร้าบุ๊กนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องของธุรกิจ หรือการนำเสนอต่างๆ ได้มากมายทีเดียวครับ
More Storage
หนึ่งในสิ่งที่ผู้คนไม่ค่อยจะชื่นชมใน MacBook Air นักก็คือเรื่องของพื้นที่หน่วยความจำนั่นเองครับ เพราะสเปก ณ ปัจจุบันนั้น พื้นที่สูงสุดบน MacBook Air ที่คุณสามารถใช้ได้ก็คือ 256 GB ซึ่งสำหรับการใช้งานในปัจจุบันที่มีไฟล์มัลติมีเดียขนาดใหญ่มากมายนั้น ดูจะน้อยไปสักนิด (บางคนใช้ฮาร์ดดิสก์ 500 GB เต็มในเวลา 2-3 เดือน) ซึ่งจะให้พกพา External Harddrive ไปไหนมาไหนตลอดเวลาก็ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงมีผู้ผลิตอย่าง SAMSUNG ที่เห็นจุดด้อยนี้ของ Apple พวกเขาจึงได้ส่ง Series 5 ที่มากับหน่วยความจำขนาดใหญ่ (ถึงแม้วจะไม่ใช้ SSD) โดยอ็อพชั่นที่มีให้เลือกนั้นสูงสุดถึง 1 TB เลยทีเดียว เรียกได้ว่าจุได้มากกว่าเป็น 4 เท่า MacBook Air เลยทีเดียว ซึ่งในส่วนของความเร้วนั้น พวกเขาก็ยังใส่ Flash Storage (ที่เรียกว่า ExpressCache) เรียกความเร็วเอาไว้ไม่ต้องกลัวช้าอีกด้วย
Windows OS
เราเชื่อว่า (เชื่ออีกแล้ว) หลายคนหลงรักดีไซน์ และประสิทธิภาพของ MacBook Air แต่จะให้ซื้อหามาเป็นเจ้าของก็ติดขัดในเรื่องของการใช้งาน เพราะยังไงก็ตามเราต้องยอมรับว่าเรื่องของธุรกิจและการทำงานเข้ากับคนอื่นๆ นั้น ยังไงซะ Windows OS ก็เหนือกว่า Mac ที่เด่นในเรื่องของการสร้างงานศิลปะ ดังนั้นแล้ว เมื่อเกิดอัลตร้าบุ๊กขึ้น ผู้คนที่อยากได้ MacBoook Air แต่ติดตรงตัว OS ที่ไม่ใช่ Windows OS ก็สามารถเป็นเจ้าของได้โดยไม่มีปัญหาในการทำงานอีกต่อไป ซึ่งในเรื่องของระบบปฏิบัติการนี้นอกจากจะเข้ากับคนอื่นๆ ได้ง่ายกว่าแล้ว เรื่องของแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมที่มีให้เลือกใช้นั้น ยังไงเราก็ต้องยอมรับว่า Windows มีให้เลือกมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งโปรแกรมฟรี หรือเสียสตางค์ โปรแกรมทำงาน จนถึงเล่นเกมส์ Windows ก็มีให้เลือกมากกว่าเยอะทีเดียว
Where the MacBook Air Beats Ultrabooks: อะไรที่ MacBook Air ดีกว่า
Superior Screen Quality
ถึงแม้ว่าทางฝั่งของอัลตร้าบุ๊กนั่นจะส่งรุ่นที่มีความละเอียดเหนือกว่า ( 1600 x 900) แต่อย่างไรเสีย การแสดงผลของ Apple นั้น เรียกได้ว่าเป็นเบอร์หนึ่งของวงการ แม้ว่าความละเอียด 1344 x 768 พิกเซลอาจจะดูว่าจำนวนพิกเซลน้อยกว่า แต่หากจะพูดถึงความสวยงามในการแสดงผลนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีสัน หรือความเที่ยงตรง MacBook Air นั้นเรียกว่าเอาชนะได้อย่างชัดเจนทีเดียวครับ ทั้งความสว่างที่นวลตา มุมมองการรับชมที่กว้าง และการสะท้อนที่ลดได้ดีมากๆ ทีเดียว ซึ่งอย่างที่บอกครับว่า Apple นั้น เน้นการแสดงผลที่ดี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานจำพวกกราฟิก หรือภาพถ่ายได้อย่างมีคุณภาพ เราจึงได้เห็นคนในวงการเหล่านี้เลือกใช้ Mac มากกว่า Windows นั่นเอง
Best Touchpad, Control & Interface
การออกแบบ Interface การใช้งานและการควบคุมนั้นเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของ Apple มาช้านานนะครับ ถึงแม้ว่าหากคุณไม่คุ้นเคยกับ Mac OS แล้วอาจจะสับสนปุ่มกันเล็กน้อย (Ctrl VS Command) แต่เชื่อเหลือเกินว่าเมื่อคุณได้สัมผัสกับ MacBook Air จนคุ้นเคยแล้วล่ะก็ คุณจะพบว่าทีมงาน Apple ได้ออกแบบ Interface และการควบคุมชั้นยอดให้คุณได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Multitouch บน Touch Pad ของ MacBook Air ที่การควบคุมด้วยหลายนิ้วนั้นแสนจะสะดวกใช้งานง่าย เช่นการใช้สองนิ้ว Scroll หน้าจอ ใช้ 4 นิ้ว เพื่อซ่อนหน้าต่างแอพฯที่ใช้อยู่ หรือการออกแบบการควบคุมทั้งหมดนั้นทำให้เมาส์ดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับ UI ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ดูเรียบง่าย สวยงาม แต่คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในเวลาเดียวกัน ซึ่งในส่วนนี้เป็นสิ่งที่มีเฉพาะในสินค้าของ Apple ที่ครองใจคนทั้งโลกอย่างที่พวกเขาทำได้กับ iPhone และ iPad นั่นเอง
Comfy, Well-Backlit Keyboard
ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ทดสอบอัลตร้าบุ๊กจนครบทุกรุ่น แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว และความเห็นของหลายคนนั้นเห็นด้วยเป็นเสียงเดียวกันว่าการออกแบบคีย์บอร์ดของ MacBook Air นั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตำแหน่งแป้นพิมพ์ที่ทำให้คุณพิมพ์ได้สะดวก รวมไปถึงความสวยงามที่ผสานกันลงตัวระหว่างตำแหน่งแป้นพิมพ์และไฟ Backlit ให้แสดงสว่างแต่ละปุ่มนั้นช่วยเพิ่มความสวยงามและน่าใช้ให้กับ MacBook Air ได้อย่างไม่มีใครเทียบ ซึ่งนอกจากสวยงามแล้วมันยังใช้งานง่าย อ่านง่ายสบายตาอีกด้วย
สรุป
ก็ทั้งหมดโดยคร่าวๆ ก็มีประมาณนี้นะครับ สำหรับเรื่องราวของความเป็นที่สุดในแง่ของเทคโนโลยีจากสองขั้ว OS ที่โลกได้รู้จักกัน ใครชอบแบบไหน ถนัดแบบไหนก็เลือกจัดไปครับ ใครชอบความเป็น Apple ก็ลองมองหากันได้ครับ แต่หากใครที่ชอบทางเลือกใหม่ๆ ในมาตรฐานที่คุณคุ้นมือบนระบบปฏิบัติการ Windows แล้วละก็ Ultrabook เป็นทางเลือกสำหรับปัจจุบัน และอนาคตที่คุณไม่ควรพลาดครับ