โดยปกติแล้วมนุษย์เงินเดือน หรือผู้คิดจะหาทุนสักก้อนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง วิธีแรกก็คงหนีไม่พ้นการเก็บหอมรอมริบเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมันอาจกินเวลาหลายปีกว่าจะสามารถก่อร่างสร้างธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองขึ้นมาได้ หรืออีกวิธีที่อาจจะได้ทุนมาเร็วขึ้นแต่ลำบากอยู่สักเล็กน้อยก็คือการหันหน้าหาบรรดาทุนจากการกู้เงินกับธนาคาร ที่ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ค่อยสนใจมนุษย์ตัวเล็กๆ สักเท่าไหร่ หรืออาจจะต้องวางแผนธุรกิจละเอียดยิบกับหลักค้ำวุ่นวายมากมาย เกริ่มกันมาเสียยาวคุณผู้อ่านอาจจะสงสัยกันว่าเราเปลี่ยนเนื้อหาจากเรื่องของไอทีเป็นธุรกิจตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันมีเหตุผลครับ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการหาเงินทุนสำหรับธุรกิจหรือสินค้า ด้วยการระดมทุนจากผู้คนในโลกออนไลน์ จากเว็บไซต์ที่ขื่อว่า Kickstarter
ความจริงแล้วจะพูดว่าธุรกิจก็คงไม่ถูกนัก เพราะโปรเจคต์อย่าง Kickstarter นั้นเป็นการสนับสนุนให้คนมีไอเดียสร้างผลิตภัณฑ์หรือเรื่องของความคิดสร้างสรรค์เจ๋งๆ ได้มีช่องทางในการระดมทุนจากผู้คนในอินเตอร์เน็ตในแบบที่เรียกว่า Crowd Funding ซึ่งมีเว็บไซต์และโปรเจคต์มากมายที่คล้ายคลึงกันแต่อาจจะแตกต่างกันไป เช่น สำหรับดนตรี กีฬา ฯลฯ แต่สิ่งที่ทำให้เราหยิบเอา Kickstarter มาพูดถึงก็เป็นเรื่องสิ่งที่โครงการนี้ให้การสนับสนุนนั้นเป็นของสินค้าความคิดสร้างสรรค์ เกมส์ เพลง ศิลปะ งานดีไซน์ และที่สำคัญคือ อุปกรณ์ประเภทไอทีหรือเทคโนโลยีก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ทาง Kickstarter ให้การสนับสนุน และมีหลายๆ งานที่ดูน่าสนใจมากๆ ทีเดียว
Kickstarter นั้นเริ่มต้นในวันที่ 28 เมษายน 2009 ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปี ณ ตอนนี้มีเงินทุนที่ผ่านเข้ามาในเว็บไซต์นี้มากกว่า 450 ล้านเหรียญ หรือหมื่นกว่าล้านบาท โดยการทำงานของเว็บไซต์แห่งนี้ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ แบบนี้ครับ สมมติว่าเรามีไอเดียจะทำสินค้าอะไรสักอย่างที่เป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์หรือไอทีแล้วต้องการให้คนทั่วโลกได้ทำความรู้จัก เพื่อที่พวกเขาอาจจะช่วยให้เงินทุนของคุณ สิ่งที่ต้องทำก็เพียงเปิดโปรเจคต์ขึ้นกับ Kickstarter จากนั้นทำรายละเอียดต่างๆ ให้ผู้คนเข้าใจว่าสินค้าหรืองานคุณคืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร พร้อมแสดงเงินทุนที่ต้องการบนหน้าเว็บเพจ อาจจะมีวิดีโอเพิ่มความน่าสนใจ จากนั้นก็ระบุว่ารางวัล หรือผลตอบแทนของผู้สนับสนุนแต่ละคนเป็นอะไร อาจจะเป็นตัวสินค้าเมื่อผลิตเสร็จแล้ว หุ้นส่วน ฯลฯ และเมื่อโครงการของคุณถูกเผยแพร่ใน Kickstarter ก็จะมีผู้คนจากทั่วโลกได้เห็นและอาจจะช่วยบริจาคให้คุณได้เงินทุนที่ต้องการ หากแต่เพียงว่าการระดมเงินทุนจาก Kickstarter นั้นจะอยู่ในรูปแบบ All or Nothing ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องระดมทุนให้ได้เท่ากับที่ตั้งไว้ในตอนแรกเท่านั้น จึงจะสามารถนำเงินนั้นไปใช้งานจริงๆ ได้ ซึ่งทาง Kickstarter บอกว่า วิธีนี้เป็นเรื่องของความปลอดภัยของเงินผู้บริจาคหรือให้ทุน และยังจะทำให้ผู้ให้ทุนที่อยากเห็นโปรเจคต์นั้นๆ สำเร็จพยายามเผยแพร่ข่าวสารต่อไปจนกว่าทุนโปรเจคต์นั้นจะไปถึงเป้าที่ตั้งไว้
แต่สำหรับใครที่คิดว่าวิธีการระเดิมเงินทุนแบบ Crowd Funding แบบนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ลองมาดูสถิติที่ทางเว็บให้มาดีกว่าครับ ตั้งแต่เริ่มต้นเว็บไซต์มานั้น มีโปรเจคต์ส่งเข้าเสนอมาแล้ว 85,000 โครงการกับเงินหมุนเวียนที่ 474 ล้านเหรียญ โดยมีตัวเลขประสบความสำเร็จที่ 407 ล้านเหรียญนับเป็น 43.56 เปอร์เซนต์จากโปรเจคต์ทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว และถ้าใครสงสัยว่าตัวเว็บจะได้เงินมาจากไหนนั้นก็ให้กันง่ายๆ แบบนี้ครับนั่นคือหากโปรเจคต์ใดได้เงินทุนครบ 100% ที่ตั้งเป้าไว้ ก็ต้องแบ่ง 5% ให้กับทาง Kickstarter ฐานะของตัวแทนนั่นเอง
สิ่งที่เราชื่นชอบในโครงการของ Kickstarter ก็คือการที่มีใครสักคน “ลุก” ขึ้นมาสร้างสถานที่พบปะระหว่างคนที่มีความฝัน กับคนที่พร้อมจะผลักดันให้ความฝันของคนอื่นๆ เป็นจริง ด้วยกำลังที่พวกเขาสามารถทำได้ ทั้งหมดนั้นรวมกันให้เกิด “พลัง” ที่น่าสนใจ หนึ่งคนได้รับเชื้อเพลิงจำเป็นที่ใช้สร้างงานดีๆ หนึ่งคนได้ให้กำลังใจซึ่งเป็นอะไรที่มากกว่าเงินทุน และที่สำคัญคือเจ้าของงานอย่าง Kickstarter ที่ได้มีโอกาสทำธุรกิจซึ่งเป็นถนนที่พาหลายๆ คนไปสู่ความฝันที่พวกเขาตั้งใจทำมันขึ้นมา
โปรเจคต์ไอทีที่น่าสนใจใน Kickstarter ที่ระดมเงินทุนสำเร็จไปแล้ว
Oculus – หมวก Virtual Reality สำหรับคอเกมส์ ที่เพียงสวมหมวกนี้ และขยับหัวหันมองไปทางต่างๆ ตัวละครในเกมส์ก็จะหันหน้าตามคุณ ในแบ 3 มิติ นั่นแปลว่าคุณจะไม่ต้องใช้เมาส์ในการบังคับมุมมอง เพิ่มประสบการณ์ความสมจริงให้กับคอเกมส์มากขึ้นโข (ปัจจุบัน Oculus ได้ทุนไปประมาณ 2.4 ล้านเหรียญ จากผู้สนับสนุน 9,500 คน ภายในหนึ่งเดือน)
Touch Time – นี่เป็นยิ่งกว่านาฬิกาดิจิตอลทั่วไป เพราะ Touch Time เป็นการนำเอาความสามารถในแบบของสมาร์ทโฟนมาใส่ไว้ในนาฬิกาข้อมือขนาดเล็ก ที่สามารถใช้งานระบบสัมผัสเพื่อเปลี่ยนหน้าใช้งาน พร้อมด้วยแอพพลิเคชั่นมากมาย กันน้ำลึดได้ 30 เมตร ที่สำคัญคือมันใช้แบตเตอรี่นาฬิกาไซส์เท่าเหรียญบาท 1 ก้อนก็สามารถใช้งานได้นานถึง 1 ปีเลยทีเดียว (โปรเจคต์นี้ได้ไป 314,581 เหรียญในเวลาเกือบๆ 2 เดือน)
GameStick – เครื่องเล่นเกมส์คอนโซลในขนาดเท่าสมาร์ทโฟน ที่เป็นได้ทั้งคอนโทรลเลอร์และอุปกรณ์ต่อเข้ากับโทรทัศน์ โดยสามารถเล่นเกมส์ที่สร้างขึ้นเพื่อระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และใช้สมาร์ทโฟน iOS หรือ Android เป็นคอนโทรลเลอร์เสริมได้ ซึ่งในขณะนี้ Gamestick กำลังอยู่ในเฟสที่ให้ผู้สร้างเกมส์ผลิตเกมส์สำหรับเล่นกับ Gamestick ขึ้นมาอีกนับร้อยราย (Gamestick ใช้เวลา 1 เดือนกวาดเงินทุนไปได้ กว่า 600,000 เหรียญ)