มาดูในกลุ่มระดับราคาเบาๆ กันบ้างครับสำหรับแบรนด์อย่าง SAMSUNG ที่มีการเปิดตัวรุ่นเล็กออกมาหลายรุ่น แต่ที่ผมหยิบขึ้นมาให้อ่านกันในวันนี้คือรุ่นสุดท้ายของปี 2011 ที่มาพร้อมชื่อที่ไม่เหมือนใครกับ SAMSUNG Galaxy Y ครับ
ตัวเครื่องขนาดเล็ก พร้อมดีไซน์ที่เรียบง่ายๆ สำหรับใช้งานเป็นสมาร์ทโฟนขนาดพกพา และใช้งานได้อย่างสะดวก น่าจะเป็นคอนเซปท์ของเครื่องรุ่นนี้ที่เดินตามรอย SAMSUNG Galaxy Mini ในเรื่องของดีไซน์ และการวางจำหน่ายในราคาประหยัดนั่นเอง
วัดขนาดเปรียบเทียบกับ HTC Wildfire S
SAMSUNG Galaxy Y Specification
2G Network |
Quad-band (850 / 900 / 1800 / 1900 MHz) |
3G Network |
HSDPA (900 / 2100 MHz) |
OS |
Android 2.3.5 (Gingerbread) |
CPU |
Single Core Processor; 800 MHz |
Dimensions |
104 x 58 x 11.5 mm. |
Weight |
97.5 g |
Display |
TFT 3.0” (240 x 320 พิกเซล) |
Memory |
180 MB ROM / 290 RAM / Micro SD |
Connection |
HSDPA (7.2 Mbps) / HSUPA (384 Kbps) / EDGE / Wi-Fi / Bluetooth / Micro USB |
Camera |
2.0 MP |
Video |
Yes |
Features |
TouchWiz UI / Social Hub / SAMSUNG Apps |
Battery |
Li-lon 1,200 mAh |
Standby Time |
850 Hours |
Talk Time |
1,020 Minutes |
Price |
4,790 |
SAMSUNG Galaxy Y นั้นค่อนข้างที่จะเป็นรุ่นธรรมดาของทาง SAMSUNG ดังนั้นเรื่องของฟังก์ชันก็จะไม่มีอะไรมากนัก นอกจากว่าเน้นมีให้ครบเอาไว้ก่อนเป็นหลัก ตัวเครื่องทำจากพลาสติกแบบแข็งมีลวดลายเพื่อให้ไม่เป็นรอยง่าย และถือจับกระชับมือ พร้อมกับพลาสติกเคลือบสีในส่วนหน้า ขนาดตัวเครื่องอย่างที่บอกมีขนาดเล็กครับด้วยหน้าจอแสดงผลขนาด 3” แบบ TFT แน่นอนเรื่องสีสันความสดของภาพถือว่าค่อนข้างธรรมดา รอบๆ ตัวเครื่องก็มีช่องเสียบต่างๆ ตามมาตรฐาน เช่นเดียวกับ User Interface ของ SAMSUNG TouchWiz มีให้ใช้งานเหมือนเดิม
ความแตกต่างหลักระหว่าง SAMSUNG Galaxy Y กับ SAMSUNG Galaxy Mini
|
SAMSUNG Galaxy Y |
SAMSUNG Galaxy Mini |
Display |
3.0” |
3.14” |
OS |
Android 2.3 |
Android 2.2 |
CPU |
Single-Core 800 MHz |
Single-Core 600 MHz |
Camera |
2.0 MP |
3.15 MP |
Memory |
180 MB |
160 MB |
ทางด้านของ OS Android นั้นเป็น Android 2.3 พร้อม CPU ระดับความเร็ว 800 MHz ซึ่งจากการใช้งานจริงๆ ค่อนข้างจะโอเคทีเดียวในส่วนนี้ แต่ในส่วนของปุ่มกดด้านหน้าจะตัดระบบ Haptic หรือการสัมผัสแล้วตัวเครื่องจะมีการสั่น เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกว่าได้สัมผัสการใช้งานแล้วออก ทำเอาไม่คุ้นไปเหมือนกันครับ
การใช้งานต่างๆ บนเครื่องนั้นมีให้เลือกใช้งานหลักเหมือนกับในรุ่นใหญ่ครับ แต่ก็จะลดประสิทธิภาพ หรือตัดความสามารถบางอย่างลงไปตามราคาที่วางจำหน่าย โดยเด่นๆ ก็ยังมีอยู่พอสมควรครับ ก็อย่างแรกเลยคือเรื่องของการใช้งาน Android Market กับ SAMSUNG App ยังคงมีให้เลือกสำหรับคนที่ต้องการ Download แอพพลิเคชันต่างๆ เพิ่มบนเครื่อง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดแข็งของ Android มาตลอดในเรื่องของแอพที่ตอนนี้ไปแล้วหลายแสนแอพพลิเคชันด้วยกันให้เลือกใช้งาน เช่นเดียวกับเรื่องของ Google Service ที่มีให้ใช้งานกันครบครัน
ด้านการใช้งานกล้องดิจิตอลบนเครื่องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ปรับการใช้งานได้ทั่วไปตั้งแต่ขนาด, White Balance, Effects หรือคุณภาพของภาพที่ได้ ขณะที่การบันทึกวิดีโอนั้นจะรองรับสูงสุดที่ 320 x 240 พิกเซล และรองรับการบันทึกทั้งในแบบ MMS หรือแบบทั่วไป ด้วยการรองรับไฟล์ที่บันทึกในแบบ .3gp
ทางด้านการเชื่อมต่อบนเครื่องรองรับทั้ง HSDPA (7.2 Mbps), Wi-Fi, Bluetooth และในส่วนของ Micro USB นอกจากนั้นก็จะมีแอพพลิเคชันทั่วไปให้ใช้งานกันครบ ไม่ว่าจะเป็น Music Player ที่รองรับการใช้งานทั่วไป และการปรับค่า Equalizer หรือปรับเสียงเป็นแบบ 5.1 ก็ได้เช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับการใช้งาน FM Radio และแอพพลิเคชันพื้นฐาน
สรุป
SAMSUNG Galaxy Y มาแนวใช้ง่าย เน้นครบ ไม่อะไรมากครับ ราคาไม่สูงนักแต่เป็น OS Android บน CPU เร็วระดับพอใช้ สำหรับคนที่เป็นคนใช้งาน IT จัด หรืออยากได้มือถือสำหรับเพิ่มความหรูราให้ตัวเองรุ่นนี้มองข้ามไปเลยครับ เพราะคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย แต่กลุ่มหลักก็คือคนที่ต้องการใช้งานสมาร์ทโฟน แต่ไม่อยากจ่ายแพง ได้ฟังก์ชันพอสมควร คุณภาพที่ได้หลังจากการใช้งานแล้วก็เหมาะกับราคาจำหน่าย อาจมีบ้างที่ผมว่าน้อยไปนิดอย่างเช่นกล้องแค่ 2 ล้านพิกเซล, ไม่รองรับการใช้งาน Flash Player หรือการตัด Social Hub ให้รองรับได้กับ Messages เท่านั้น
ขอขอบคุณบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทอรนิคส์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้ออุปกกรณ์ในการทดสอบ
Design | 8 |
Performance | 7 |
Feature | 7 |
Value | 8 |
Overall | 7.5 |