ก่อนอื่นเลยก็ขอสวัสดีปีใหม่นะครับทุกคนนะครับ สำหรับในปี 2012 นี้ก็ขอให้มีความสุขกันทุกคน มีสุขภาพที่ดีกันทุกคน ไปเที่ยวไหนกันมาก็ขอให้มันเป็นการพักผ่อนที่ดี และมีแรงสู้ชีวิตกันต่อไปครับ ในช่วงข้ามปีที่ผ่านมาผมทิ้งท้ายกับเรื่องราวของ Review หลายรุ่นที่ออกไปนะครับ และมีรุ่นหนึ่งที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้เป็นรุ่นแรกของปี  2012 นี้กับ Galaxy Nexus สมาร์ทโฟนจากเจ้าของระบบปฏิบัติการ Android อย่าง Google เป็นผู้สร้างขึ้น และเป็นรุ่นแรกที่รองรับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด Android 4.0 Ice Cream Sandwich (หรือในชื่อย่อ ICS) กันอีกด้วย ว่าแล้วก็ไปด้วยกันกับผมเลยครับว่ารุ่นนี้มีดีอะไรกับเขาบ้าง

          Galaxy Nexus นั้นเหมือนกับเป็นสมาร์ทโฟนโปรเจ็คท์พิเศษๆ จากทาง Google ที่ออกมาให้ผู้ใช้ได้ลองใช้งานสมาร์ทโฟนของพวกเขาดูบ้างครับ หลังจากที่ Android นั้นได้มีการให้หลายๆ ค่ายได้นำ OS นี้ไปใช้งานกันอย่างกว้างขวางจนตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าหุ่นตัวเขียวนี้กันแล้วครับ โดย Google นั้นทำแบบนี้เป็นครั้งที่สองแล้วหลังจากที่ครั้งแรก Google Nexus เปิดตัวออกมาเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว และมาถึงในรุ่นนี้ โดยทาง Google ยังคงไว้วางใจให้กับทาง SAMSUNG เป็นผู้ผลิตตัวเครื่องให้กับพวกเขาอีกเช่นเคยเหมือนในรุ่นที่แล้ว ซึ่งทาง Google เองนั้นยืนยันว่าการที่พวกเขาออกผลผิตภัณฑ์ของตัวเองออกมาแต่ละรุ่นนั้นจะต้องเป็นรุ่นที่ดีที่สุดในตลาดขณะนั้นบน Android ซึ่งรุ่นนี้ก็อย่างที่บอกครับว่าเป็นเช่นนั้นเพราะว่ามันมาพร้อมกับ Android 4.0 และอีกหลายๆ อย่างที่เรียกว่าเป็นที่สุดของที่สุดบนสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการนี้ครับ ว่าแล้วไปดูเรื่องของ Spec ตัวเครื่องกันก่อนเลย

 

Galaxy Nexus Specification 

          เรียกว่าจัดหนักมาทีเดียวครับสำหรับรุ่นนี้แต่ก็มีที่ไม่สุดเท่าไรอย่างกล้องดิจิตอลที่มาในระดับ 5 ล้านพิกเซลเท่านั้นไม่แตะไปถึงระดับ 8 ล้านพิกเซลเหมือนกับในรุ่น SAMSUNG Galaxy S II ฟังก์ชันอื่นๆ นั้นมาครบหมดไม่ตกหล่น แถมเพิ่มมาหลายสิ่งอย่างจากใน Android 4.0 ด้วย ซึ่งจะมีอะไรนั้นติดตามกันในส่วนต่อไปครับ

         มาดูในส่วนตัวเครื่องกันก่อนครับ ตัวเครื่องนั้นมาพร้อมพลาสติกแบบด้านรอบตัวเครื่องครับ โดยฝาหลังนั้นมีลายเพื่อให้ช่วยติดมือง่ายยิ่งขึ้น ดีไซน์ตัวเครื่องถือว่าค่อนข้างบางตามสไตล์ของ SAMSUNG เช่นเดียวกับฝาหลังแบตที่ก็บางเหมือนเคย ตัวเครื่องออกแบบมาเรียบง่ายรวมๆ แล้วค่อนข้างจะโอเคเลยกับตัวเครื่องครับ ยกเว้นสองเรื่องคือเรื่องฝาหลังที่บางเกินไป และเรื่องของตัวเครื่องไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ รองรับหน่วยความจำภายในทั้งหมด 16 GB

 

ความแปลกใหม่บน  Android 4.0

            ในส่วนนี้นั้นมีด้วยกันหลายส่วนมากทีเดียวครับ หลังจากที่ Google  ตัดสินใจยกเครื่องใหม่ทั้งหมด และทำการรวม OS ให้ใช้งานได้ทั้งในส่วนของสมาร์ทโฟน และแท็บเลตแล้ว หลังจากที่มีการแยกกันในช่วงที่ผ่านมากับ OS Version 2.x สำหรับบนสมาร์ทโฟน และ OS Version 3.x สำหรับบนแท็บเลตนั่นเอง โดยใน Android 4.0 นั้นมีการนำข้อดีของทั้งสองรุ่นเข้ามาเสริม โดยหลักๆ นั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ในส่วนของการมี Recent  Apps, การปรับขยาย Widget  ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มในส่วนของแอนิเมชันแบบใหม่ๆ  ปุ่มกดหลักสามปุ่มที่อยู่คู่กับ Android Device 3 ปุ่มอันได้แก่ปุ่ม Back, Home Screen และปุ่ม Recent App (เข้ามาแทนที่ปุ่ม Sub Menu) ถูกนำมาใส่ไว้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอแสดงผลเลยไม่ใช่เป็นปุ่มสัมผัสเหมือนรุ่นก่อนๆ แล้ว  ขณะที่ในเรื่องของ Menu Icon นั้นสามารถทำการรวมเป็น Folder เดียวกันได้เพียงทำการลาก Icon ที่ต้องการลากไปวางทับกับ Icon ที่ต้องการรวมกลุ่มก็สามารถรวมกันได้แล้ว

 

ในส่วนของ Lock Screen นั้นแบบ Slide ทั่วไปนั้นสามารถเลื่อนเพื่อทำการปลดล๊อกหน้าจอ หรือเลื่อนไปสำหรับเขากล้องดิจิตอลได้เลยโดยตรง ขณะที่หากเป็นหน้าจอสายเรียกเข้านั้นจะมีให้เลือกตั้งแต่การรับสาย, วางสาย และการเข้าสู่โหมดข้อความ

 

          นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบการล๊อคหน้าจอแบบใหม่ที่เรียกว่า Face Unlock ที่ผู้ใช้สามารถที่จะนำ “หน้า” ของตัวเองในการปลดล๊อกหน้าจอได้ โดยเป็นการใช้งานร่วมกับกล้องดิจิตอลด้านหน้าเครื่อง และเปิดใช้งานให้กล้องทำการบันทึกและจดจำหน้าของผู้ใช้งาน ซึ่งเมื่อบันทึกแล้วทุกๆ ครั้งที่จะปลดล๊อกเพียงแค่เอาหน้าของคุณไปแสดงบนหน้าจอก็จะปลดล๊อคโดยอัตโนมัติทันที อย่างไรก็ดีการใช้งานดังกล่าวนั้นหลังจากลองทดสอบนั้นจะใช้งานได้กับหน้าตรงเท่านั้น เพราะโปรแกรมจะทำการจดจำโครงหน้าเอาไว้นั่นเอง รวมไปถึงในการปลดล๊อกนั้นจะมีข้อจำกัดบ้างในเรื่องของความสว่าง หรือเรื่องของแว่นตาด้วยที่ทำให้บางครั้งอาจปลดดล๊อกไม่ได้ แต่เท่าที่ทดสอบก็ใช้งานได้ดีครับ อย่างไรก็ดีม็จะมีระบบป้องกันแบบ Pattern หรือ Pin ให้ทำการปลดล๊อคตัวเครื่องได้เช่นกันในกรณีที่ Face Unlock มีปัญหาจะได้ปลดล๊อกใช้งานได้ครับ

 

          นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของการใช้งาน Network Data ที่ในรุ่นใหม่นี้จะมีการแบ่งแยกออกมาเป็นกราฟให้แบบละเอียดยิบ แสดงผลกันหมดว่าเราจะใช้อะไรอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการใช้งานให้ตัวเครื่องเร็วขึ้น ประมวลผลได้ดีขึ้นตามที่ต้องการรวมไปถึงยังกำหนดลิมิตการใช้งานได้ด้วย ในเรื่องการใช้งานในส่วนของการปรับแต่งลูกเล่นนั้นก็มีไม่น้อยครับในรุ่นนี้โดยในส่วนของ Developer Options (Sretting à Developer Options) นั้นทาง Google เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าไปเล่นได้พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของ User Interface ที่สามารถเลือกปรับได้อย่างเช่นการใช้งาน Show Touches ที่พอสัมผัสหน้าจอแล้วจะมีวงกวลมขึ้นมาให้รู้ว่าเราสัมผัสส่วนไหนของหน้าจอ,  Show CPU Usages สำหรับแสดงการใช้งาน CPU ในทุกๆ การสัมผัสใช้งานของเรา, Pointer Location สำหรับวัดองศาในการสัมผัสต่างๆ หรือว่าการใช้งาน Force GPU Rendering ในการใช้ประมวลผล 2D และยังมีอื่นๆ อีกหลายอย่างให้ลองเล่นกันครับ ซึ่งผมมองว่า Google เปิดช่องมากๆ ในส่วนนี้ให้ลองเล่นในส่วนที่เป็นเรื่องของระบบพอสมควร

 

          เอาละมาดูเรื่องของความบันเทิงกันบ้างครับ เรื่องของเสียงกันก่อนแล้วกัน โดย Galaxy Nexus นั้นมีเรื่องของ Music Player ที่สามารถปรับลูกเล่นได้เยอะทีเดียวครับ ทั้งเรื่อง Play Mode ทั่วไป, Album Art หรือว่าการปรับแต่ง Equalizer  ที่มีให้เลือกเพียบ รวมไปถึงระบบ Bass Boost และระบบเสียง 3D Effect ให้เลือกกัน คุณภาพรวมๆ แล้วโอเคทีเดียวครับ ลำโพงมัลติมีเดียด้านหลังเครื่องดีพอสมควร การใช้งานร่วมกับหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรนั้นจะทำให้ได้อรรถรสได้ดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหูฟังของเราด้วยว่าจะมีคุณภาพดีแค่ไหนในการขับเม็ดเสียงออกมาครับ โดยเรื่องของเสียงนี้ขึ้นกับสามส่วนหลักคือ ตัวหูฟังที่ใช้งาน, ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเล่น และสุดท้ายก็คือตัวไฟล์เพลงครับ





เรื่องกล้องดิจิตอลบนเครื่องนั้นจุดขายจะอยู่ที่ในเรื่องของการบันทึกวิดีโอครับ เพราะมีการรองรับเอฟเฟกต์มากมายไม่ว่าจะเป็น Background แบบเคลื่อนไหว (คล้ายกับเหมือนกับถ่ายบน Blue Screen อะไรประมาณนั้นครับ) รวมไปถึง Effects ตลกๆ อย่างเช่นทำให้ปากใหญ่ จมูกโต หรือว่าทำหน้างอน เป็นต้นครับ เรียกว่าห้ามพลาดทีเดียวครับ สำหรับฟังก์ชันเหล่านี้ โดยการบันทึกนั้นสามารถบันทึกได้สูงสุดถึง 1080p อีกต่างหาก ขณะที่การถ่ายภาพนั้นรองรับทั้งการถ่ายภาพทั่วไป และการถ่ายภาพแบบ Panorama Mode  ครับ การปรับแต่งนั้นเด่นๆ ก็จะมีระบบ Touch Focus และการปรับค่า Scene Mode ต่างๆ ครับ

 

ตัวอย่างภาพความละเอียด 5 ล้านพิกเซล



ตัวอย่างการใช้งาน Video Effect (แบบ Small Eyes) 

          ต่อเนื่องเรื่องภาพอีกนิดในส่วนของ Gallery นั้นจะเป็นจุดที่ผมคิดว่าทำดีมากคือในส่วนนี้นั้นผู้ใช้จะสามารถนำภาพมาปรับแต่งได้อีกเพียบ คล้ายๆ กับมี Photoshop แบบง่ายๆ ให้ใช้กันครับทั้งการปรับลดตาแดง, Crop, หมุนภาพ หรือว่าใส่ Effects ต่างๆ พร้อมให้แชร์ภาพที่ปรับแต่งได้เลยเรียกว่ามาครบให้ใช้งานกันครับ

          ในเรื่องของการใช้งาน Web Browser นั้นมีความคล้ายกับบนเวอร์ชัน PC มากทีเดียว มีการรองรับการใช้งาน Flash Player และระบบ Pinch Zoom, Share Page, การใช้งาน Bookmark ฯลฯ ขณะที่ในส่วนของ Social Network นั้นก็นอกจาก Facebook หรือว่า Twitter แล้วก็ขอต้อนรับ Google+ ซึ่งเป็นบริการสังคมออนไลน์ของ Google ที่มาพร้อการใช้งาน Google+ Messenger เพื่อใช้ในการสนทนาได้อีกด้วย ทางด้านของบริการของ Google นั้นมีการเพิ่มเติมในส่วนของ Google Earth ลงไปให้ใช้งานกันด้วย ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นก็มีให้ครบครัน รวมไปถึงการใช้งาน Android Beam ที่เป็นการใช้งาน NFC รวมไปถึงในส่วนของการใช้งาน Wi-Fi Direct ครับ



 

 สรุป

           ยอดเยี่ยม!!! สำหรับเวอร์ชันใหม่ของ Google และ Android 4.0 ที่ทำได้ดีทีเดียวกับการอัพเกรตครั้งใหม่ที่อาจจะค่อนข้างเป็นการรอคอยที่นานพอสมควรหลังจากที่มีการประกาศการพัฒนา แต่ทาง Google เองก็ทำออกมาได้ดีมากครับ นำข้อดีจากเวอร์ชันที่ผ่านมามาปรับปรุงให้ดีขึ้น ดูแล้วกลมกลืน ความสามารถใหม่ๆ ที่ให้มามีทั้งแบบที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานจริงๆ ค่อนข้างเยอะ มีทั้งเพื่อการรักษาความปลอดภัยบนเครื่อง และมีเพื่อความบันเทิงในการใช้งาน รวมไปถึงการปรับปรุงสิ่งเดิมๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ง่ายกว่าเดิม นั่นคือภาพรวมของผมกับ Android 4.0 ที่น่าจะดีขึ้นในรุ่นต่อๆ ไปที่จะใช้งาน OS เวอร์ชันนี้

         ในส่วนของตัวเครื่อง Galaxy Nexus นั้นผมติดใจแค่เรื่องวัสดุเท่านั้นที่อาจจะบอบบางไปหน่อย เช่นเดียวกับไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก ทางด้านของแบตเตอรีนั้น หลังจากที่มีหลายสำนักบอกว่ามันค่อนข้างจะกินแบตมากทีเดียว แต่หลังจากที่ลองใช้งานดูส่วนตัวคิดว่าไม่มากเท่าไรนักครับ ขึ้นกับการใช้งานของแต่ละคนมากกว่า อย่างผมเดินทางไปต่างจังหวัด 5 วันเต็ม ชาร์จแบตเตอรีเต็มตอนออกเดินทาง และก็ไม่ได้ชาร์จอีกจนถึงกลับบ้านก็ยังอยู่ได้เหลือประมาณ 15 % ซึ่งการใช้งานตลอด 5 วันนั้นจะเป็นการใช้งานหลักๆ คือถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ, สนทนาโทรศัพท์ และการใช้งาน Social Network รวมไปถึงการใช้งาน Maps อีกเล็กน้อยเท่านั้นครับ ดังนั้นในส่วนนี้ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนมากกว่าครับ

ขอขอบคุณบริษัทไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบ

บทความโดย BoyDacZ ภาพตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมดถ่ายด้วย Canon PowerShot G12