Design

                เมื่อแรกแกะกล่องออกมา รู้สึกได้ว่า เป็นโปรเจคเตอร์ที่น่าใช้งานมาก ๆ โดยดีไซน์จะมาในโทนสีขาวสลับเทาอ่อน ๆ เรียบ ๆ ดูเนียนตา ให้ความรู้สึกถึงความบริสุทธิ์ ที่ชวนสัมผัสมาก ๆ ขนาดของตัวเครื่องนั้น นับว่าอยู่ในเกณฑ์ทั่ว ๆ ไป ไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่ ด้วยขนาด 268 X 192 X 80 มม. และมีน้ำหนักที่ประมาณ 2 กิโลกรัม การเคลื่อนย้ายและการหาที่วางเครื่องจึงไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่การพกพาอาจจะไม่สะดวกนัก

                เริ่มสำรวจที่ด้านหน้าของตัวเครื่องก่อนเป็นอันดับแรก จะเห็นว่าไม่ได้แตกต่างไปจากโปรเจคเตอร์ตัวอื่น ๆ เลย โดยทางขวาจะเป็นเลนส์ F = 2.5 ~ 2.67, f = 21.86mm ~ 24.00mm ซึ่งจะมาพร้อมกับฝาปิดเลนส์ ถัดมาจากส่วนของเลนส์ ตรงกลางจะเป็นโลโก้เอเซอร์ และถัดมาทางซ้ายจะเป็นช่องตะแกรงระบายอากาศขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับทางด้านขวาและด้านซ้ายของตัวเครื่องที่มีช่องระบายอากาศอยู่เช่นกัน

 

                ขยับขึ้นไปทางด้านบนของตัวเครื่อง จะมีแผงปุ่มควบคุมการทำงาน ซึ่งสามารถเลื่อนถอดออกมาใช้งานเป็นรีโมทควบคุมจากระยะไกลได้ และใกล้ ๆ กับแผงปุ่มควบคุมจะมีปุ่มพาวเวอร์ ถัดมาก็จะเป็นวงแหวนสำหรับซูมเข้า-ออกแบบ Manual ข้ามมาอีกฟากหนึ่ง จะมีโลโก้บ่งบอกคุณสมบัติพิเศษในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Nvidia 3D Vision , DLP 3D Ready , HD ready และ DLP Texas Instruments รวมถึงโลโก้เอเซอร์ด้วย


 

                มาดูที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ข้างบนจะเป็นช่องเสียบการเชื่อมต่อต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยช่องเสียบแบบ RS232 , VGA-IN , HDMI ,Composite Video RCA , S-Video , Component Video RCA และ AUDIO IN ถัดมาทางด้านล่างจะมีช่องเสียบสายไฟ และ Kensington Lock Slot

Let’s Play

                รุ่นนี้มีคู่มือการติดตั้งอย่างรวดเร็ว (Quick Start Guide) มาให้ แถมยังมีภาษาไทยอีกด้วย ทำให้เข้าใจได้ง่าย การติดตั้งจึงทำได้อย่างสะดวก นอกจากนั้นยังมีคู่มือการใช้งาน User’s Manual แบบภาษาไทย แถมมากับแผ่นซีดีที่ให้มากับตัวเครื่องด้วย การทำความเข้าใจในวิธีการใช้งานจึงเป็นไปได้ด้วยดี ในการทดสอบนั้น ก่อนอื่นก็ต้องทำการเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เข้ากับเครื่องโน้ตบุ๊กของเราตามวิธีในคู่มือ ซึ่งสามารถทำได้อย่างสะดวกตามที่คาดหวังไว้เพียงแค่ต่อสาย D-sub เข้ากับพอร์ต VGA in ของเครื่องโปรเจคเตอร์กับเครื่องโน้ตบุ๊ก ก็สามารถฉายภาพได้ในทันที

                เมื่อเริ่มฉายภาพ สามารถที่จะปรับโฟกัสของภาพให้ชัดเจน ได้เพียงแค่หมุนที่แหวนโฟกัสตรงเลนส์ภาพ และยังมีวงแหวนปรับซูมเข้า/ออกช่วยในการปรับความคมชัดของภาพอีกด้วย การควบคุมจากระยะไกลก็สามารถทำได้ เพราะแผงปุ่มควบคุมบนตัวเครื่องสามารถถอดออกมาใช้งานเป็นรีโมทได้ ซึ่งเมนูควบคุมการทำงานนั้นมีภาษาไทยด้วย ทำให้สามารถปรับแต่งการทำงานต่าง ๆ ได้ง่ายเช่นกัน โดยอัตราส่วนของภาพที่แสดงนั้น (Aspect Ratio) สามารถปรับได้ตั้งแต่ 4:3 , 16:9 และ L.Box ซึ่งถ้าลองปรับเป็น L.Box แล้ว ภาพที่แสดงจะมีขนาดที่ใหญ่ แต่จะมีภาพขาดหายไปเล็กน้อย แต่ไม่เป็นปัญหามากนัก

                สำหรับเจ้าโปรเจกเตอร์รุ่นนี้จะมีโหมดการแสดงภาพที่หลากหลาย ประกอบด้วย โหมดสว่าง ที่จะปรับความสว่างให้เหมาะสมที่สุด โหมดมาตรฐานสำหรับสภาพแวดล้อมทั่วไป โหมดภาพยนตร์สำหรับการเล่นภาพยนตร์/วีดีโอ/ภาพถ่ายทั่วไป เพื่อให้มีความสว่างของภาพมากขึ้น โหมดภาพยนตร์มืดสำหรับการฉายภาพยนตร์ที่มีภาพมืด ๆ โหมดเกมและโหมดกีฬา ขณะเดียวกันผู้ใช้ยังสามารถปรับการแสดงภาพตั้งแต่ค่าคอนทราสต์ ความสว่าง อุณหภูมิสี และสี RGB ได้เองอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นที่สามารถปรับเลือกสีให้เหมาะสมกับผนังที่ใช้นำเสนองาน โดยได้แก่สีขาว เหลืองอ่อน ฟ้า ชมพู และเขียวเข้ม ด้วยการชดเชยความผิดเพี้ยนของสีเนื่องจากสีของกำแพง เพื่อให้ได้โทนสีที่ถูกต้อง

 

                มาดูที่คุณภาพของภาพที่แสดงออกมานั้น นับว่ามีรายละเอียดของภาพคมชัดมาก สีสันสดใสสวยงาม โดยสามารถแสดงได้สูงสุด 1.07 ล้านสี ไม่เพี้ยนไปจากต้นฉบับมากนัก สมกับใช้เทคโนโลยี DLP ในการฉายภาพ รวมถึงเทคโนโลยี Acer ColourBoost II+ โดยจะแสดงภาพที่ความละเอียดระดับ 720p และความละเอียดสูงสุดที่ UXGA และ 1080p และเมื่อลองเล่นภาพยนตร์ที่มีความละเอียดสูง การฉายภาพก็สามารถทำได้อย่างไหลลื่น สวยงาม รายละเอียดของภาพอยู่ครบ ดูเพลินตา สำหรับการฉายภาพแบบ 3 มิติก็สามารถทำได้ เพราะมีทั้ง 3D DLP Ready และ Nvidia 3D Vision ในตัว นอกจากนั้นยังสามารถปรับให้ฉายภาพกลับหัวหรือปรับให้ฉายภาพกลับด้านสำหรับฉายภาพจากจอโปร่งใสด้านหลังได้

                รุ่นนี้สามารถหยุดภาพการนำเสนอช่วยคราวได้ด้วยปุ่ม Freeze และยังมีเทคโนโลยี Acer Empowering ซึ่งประกอบด้วย 3 ฟังก์ชั่นด้วยกันคือ Acer eView Manangement สำหรับเลือกโหมดแสดงภาพ อย่างรวดเร็ว Acer eTimer Management ฟังก์ชั่นการเตือน สำหรับการควบคุมเวลาการนำเสนอ และ Acer ePower Management สำหรับปรับเป็นโหมดประหยัดหลอดไฟ และยืดอายุการใช้งานโปรเจคเตอร์

Impression

                สามารถฉายภาพ 3 มิติได้ แสดงภาพได้คมชัด สวยงาม สีสันสดใส ภาพเคลื่อนไหวดูไหลลื่น การเชื่อมต่อหลากหลาย และทำได้สะดวก การใช้งานและการปรับแต่งต่าง ๆ ทำได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก

Limitation

                ความร้อนของตัวเครื่องขณะทำงานสูง การปิดเครื่องใช้เวลานาน เพราะต้องรอให้พัดลมเครื่องหยุดสนิทเสียก่อนจึงจะถอดปลั๊กไฟได้ ซึ่งอาจจะทำให้เสียเวลา          

Specification

Projection System :         DLP

Display panel :              0.62" DarkChip™ 3 DMD

Resolution :                  720p (1,280 x 720) Maximum UXGA (1,600 x 1,200), 1080p (1,920 x 1,080)

Aspect Ratio :               16:9 (Native), 4:3

Contrast Ratio :             3200:1

Brightness :                   2,500 ANSI Lumens (Standard) ,2,000 ANSI Lumens (ECO)

Lamp Life:                     3,000 hours (Standard) , 4,000 hours (ECO)

Projection lens:            F = 2.5 ~ 2.67, f = 21.86mm ~ 24.00mm , 1:1.1 manual zoom and manual focus

Noise level :                   32 dBA (Standard) / 27 dBA (ECO)

Input interface:            Analog RGB/component video (D-Sub)

S-video (mini DIN)

Composite video (RCA)

HDMI™ (video, audio, HDCP)

PC audio (stereo mini jack)

Price :                                    32,700 baht