Design
นับว่าเป็นเครื่องพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์ที่ดูแล้วสวยงาม ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย ตัวเครื่องสีดำที่ออกดุดันเล็กน้อย ขนาดของตัวเครื่องที่ 349 X 238 X 196 ม.ม.และหนัก 5.3 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่มากนัก ดูกะทัดรัด สามารถหาที่วางได้สบาย ๆ ด้านหน้าตัวเครื่องมีปุ่มพาวเวอร์อยู่ทางด้านซ้าย ถัดมาตรงกลางเป็นถาดป้อนกระดาษที่สามารถพับเก็บได้ ซึ่งสามารถใส่กระดาษได้ 150 แผ่น เหนือขึ้นไปเป็นโลโก้ HP ซึ่งอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่องพอดี ส่วนด้านขวาสุดจะมีชื่อรุ่น HP Laserjet P1102W อยู่ที่มุมบน
ด้านบนของตัวเครื่องทางซ้ายประกอบด้วยปุ่มสั่งงานสองปุ่มคือปุ่มเปิดการใช้งานสัญญาณ Wireless กับปุ่มยกเลิกการพิมพ์ และสัญญาณไฟเตือนต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยไฟสัญญาณสีเขียวแสดงสถานะเครื่องพิมพ์พร้อมใช้งาน , ไฟสีฟ้าแสดงสถานะการเชื่อมต่อ Wireless และไฟสีส้มข้างสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมแสดงสถานะว่าเครื่องพิมพ์ error ถัดมาเป็นช่องกระดาษขาออกและถาดรองรับกระดาษที่สามารถพับเก็บได้เช่นเดียวกับถาดป้อนกระดาษ ทำให้สามารถพับเก็บและเคลื่อนย้ายได้สะดวก
ส่วนด้านหลังตัวเครื่องมีช่องเสียบสายไฟอยู่มุมล่างด้านขวาและช่องเสียบสายเคเบิล Hi-Speed USB 2.0 port
Let’s Play
เริ่มต้นด้วยการศึกษาคู่มือเริ่มต้นการใช้งานที่ให้มาในกล่อง ซึ่งในคู่มือนั้นมีภาษาไทยด้วยซึ่งทำให้ง่ายในการทำความเข้าใจ ซึ่งรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อและสั่งพิมพ์ผ่านเครือข่าย network เพื่อสั่งพิมพ์แบบไร้สายได้ด้วยฟังก์ชั่น WIFI 802.11 b/g โดยสามารถที่จะสั่งพิมพ์ได้จากตำแหน่งไหนก็ได้ในบ้านหรือที่สำนักงาน นอกจากนี้ยังรองรับ Mac ด้วย
เริ่มแรกต่อสายไฟที่ช่องเสียบสายไฟพร้อมทั้งต่อสายเคเบิลที่ให้มาให้เข้าที่ จากนั้นก็นำมาเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะขึ้นตัวติดตั้งของ HP Smart Install มาอัตโนมัติ ให้เราคลิ๊กที่ตัวนั้นได้เลย ซึ่งถ้าหากว่าคอมพิวเตอร์รุ่นไหนไม่รองรับ HP Smart Install ก็สามารถใช้การติดตั้งจากแผ่น CD ที่ให้มาได้ จากนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งถือว่าทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน โดยใช้เวลาประมาณ 2 นาที หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วจะมีหน้าต่าง “การนำทางวิธีใช้” ขึ้นมาซึ่งเป็นหน้าต่างที่จะช่วยให้เราใช้งานได้ง่ายและยังสามารถที่จะแก้ไขปัญหาในการใช้งานได้ ซึ่งในหน้าต่างนี้ประกอบด้วยเมนูลัดต่าง ๆ คือรูปแบบไฟสัญญาณบนเครื่องพิมพ์ , เปลี่ยนตลับหมึกพิมพ์ , แก้ไขการติดขัดของกระดาษ , พิมพ์บนกระดาษหนัก และค้นหาที่อยู่ IP ของเครื่องพิมพ์ในเครือข่าย
จากนั้นเราได้ทดสอบเครื่องพิมพ์โดยการพิมพ์เอกสาร โดยการวางกระดาษนั้นให้หงายหน้ากระดาษที่ต้องการจะพิมพ์ขึ้น ซึ่งจากการทดสอบถือว่าเป็นเครื่องพิมพ์ที่มีความเร็วในการพิมพ์ที่รวดเร็วมาก โดยจากที่ได้ระบุไว้ที่ 18 แผ่นต่อนาทีนั้น เมื่อทดสอบด้วยการจับเวลาตั้งแต่เครื่องเริ่มพิมพ์แผ่นแรกแล้วปรากฏว่าสามารถพิมพ์ได้ถึง 20 แผ่นต่อนาที ซึ่งงานที่ทดสอบนั้นเป็นเอกสารที่เป็นตัวอักษรและมีรูปภาพแทรกเล็กน้อย โดยที่คุณภาพของตัวเอกสารนั้นก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว ตัวอักษรมีความเข้มและคมชัดดี นอกจากนี้ยังได้ทดสอบในส่วนของการพิมพ์ภาพที่มีหลายเฉดสี พบว่างานที่ออกมานั้นมีการไล่ระดับเฉดสีเทาอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ เสียงเครื่องในขณะที่ทำการพิมพ์นั้นไม่ดังมากจนเกินไป ส่วนการใช้งานหรือการแก้ไขปัญหาส่วนต่าง ๆ ถือว่าสะดวกเนื่องจากเราสามารถศึกษาได้จาก HP Laserjet Guide หรือ “การนำทางวิธีใช้” ซึ่งจะมีเมนูหลัก ๆ ให้ใช้งาน คือ งานทั่วไป, จัดการและบำรุงรักษา และแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยี Instant-on ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานไปได้ถึง 50%และที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือฟังก์ชั่น HP Auto On/Auto-off ซึ่งเมื่อคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานตัวเครื่องจะทำการปิดตัวเองโดยอัตโนมัติและถ้าหากคุณสั่งพิมพ์ ตัวเครื่องก็จะทำงานเองโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดปิดเครื่อง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการประหยัดค่าไฟในบ้านหรือสำนักได้ดีอีกด้วย
Impression
ที่ประทับใจสุด ๆ คือสามารถติดตั้งได้ง่ายมาก ไม่เสียเวลา ความรวดเร็วในการพิมพ์สูง คุณภาพของเอกสารที่พิมพ์ออกมานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานพิมพ์ผ่านเครือข่าย Network ได้อีกด้วย
Limitation
ดีไซน์ยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ ดูเรียบง่ายไปนิด การพิมพ์เอกสารที่มีหลายเฉดสียังไล่เฉดสีเทาได้ไม่ดีพอนัก
Specification
Print technology : Laser
Dimention : 349 X 238 X 196 mm
Weight : 5.3 kg
Print speed black ( A4 ) : Up to 18 ppm
Print resolution : Up to 400 X 600 X 2 dpi (600 dpi effective output)
Paper size : Letter, legal, executive, postcards, envelopes (No. 10, Monarch)
Paper input : 150 sheet input tray
USB : Hi-speed USB 2.0
Price : 5,290 Baht
Design | 7 |
Performance | 7 |
Feature | 9 |
Value | 8 |
Overall | 7.8 |