สำหรับในวันนี้ Notebook ที่ผมจะนำมาให้คุณผู้อ่านทุกๆคนได้ชมกันนั้นได้แก่ Toshiba Portégé T130-D330T/TR ซึ่งจัดว่าเป็น Notebook ในตระกูลประหยัดพลังงานอีกตัวนึงของตลาด ใครที่กำลังมองหาเครื่องสำหรับการพกพาที่สามารถใช้งานได้นานๆ วันนี้ห้ามพลาดเป็นอันขาดครับ อ้อ... ขอแง้มๆกันซักนิดนึงนะครับว่า วันนี้ผมมีของรางวัลมาแจกด้วย เพราะฉะนั้นตั้งใจอ่านกันดีๆล่ะครับ รับรองว่าของรางวัลไม่ไปไหนไกลอย่างแน่นอน เอาล่ะครับก่อนอื่นเราไปชม Spec ของเครื่องกันก่อนเลยดีกว่า

Spec แบบนี้คงต้องบอกกันตรงๆว่า ไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าด เหมือนกับ Core 2 Duo แบบ ปกติ เพราะฉะนั้นใครที่เน้นหนักไปในเรื่องของการประมวลผล ก็คงต้องข้ามไปดูตัวอื่นครับ แต่หากใครที่สไตล์การใช้งานแบบที่ผมเกริ่นไปแล้วนั้น รับรองว่า Toshiba ตัวนี้ ไม่ขี้เหร่กว่ายี่ห้ออื่นๆอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปชมส่วนต่างๆกันเลยดีกว่าครับ

                ภายนอกมาในสไตล์ Glossy โดยใช้วัสดุหลักเป็นพลาสติกที่มีลักษณะมันเงา ดูโดดเด่นสะดุดตา และตัวเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบนั้นเป็นสีแดง จึงทำให้ Toshiba เครื่องนี้กลายเป็นเครื่องที่โดดเด่นที่สุดใน Office ของเราครับ เนื่องจาก Notebook กว่า 90% ในตลาด รวมถึงใน Office ของเรา จะเน้นไปทางด้านโทนสีดำ ฉะนั้นแล้วใครที่ชอบ Notebook สวยเด่น ดึงดูดสายตาทุกๆคน Toshiba เครื่องนี้ไม่เป็น 2 รองใครอย่างแน่นอนครับ

บริเวณฝาพับนั้น มีการเล่นลวดลายเป็นแบบลายเส้นที่มีมิติ สามารถมองเห็นเส้นต่างๆตัดกันได้ หรือจะมองให้เป็นเหมือนคลื่น ที่ขนานกันก็ได้ ในบริเวณขอบของทุกด้านนั้นจะมีดีไซน์ที่เป็นแบบโค้งมน และบนพื้นผิวที่มันวาวนี้จะมีเพียงตราของ Toshiba โดดเด่นอยู่บริเวณกึ่งกลางเท่านั้น

ในส่วนของตัวเครื่องครึ่งล่างที่เป็นฐานนั้น จะใช้วัสดุเป็นแบบพลาสติกที่มีเนื้อด้านสีดำ เหมือนๆกับ Notebook ทั่วไปที่วางขายอยู่ในตลาด ทำให้สีสันในบริเวณนี้ตัดกันอย่างเด่นชัดกับโทนสีหลักของตัวเครื่อง ในส่วนของบริเวณ Panel ด้านซ้ายนั้น ประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington, ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ VGA ที่มีการใช้สีของ Port เป็นสีดำ ทำให้ดูกลมกลืนเข้ากับพื้นผิวได้เป็นอย่างดี, ช่องระบายอากาศที่มีขนาดกำลังพอเหมาะ และเล่นดีไซน์ให้กลมกลืนไปกันลักษณะของตัวเครื่อง, ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ HDMI และช่องสุดท้ายได้แก่ USB ครับ

บริเวณด้านขวาประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟจาก Adaptor, ช่องสำหรับเชื่อมต่อสาย LAN, USB จำนวน 2 ช่อง ซึ่งเมื่อนับรวมจำนวน USB ทั้งหมดแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นจำนวนที่น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆไปครับ, ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนหูฟัง และส่วนสุดท้ายนั้นได้แก่ Card Reader ที่เขียนกำกับมาตรฐานของการ์ดเอาไว้อย่างชัดเจนครับ

บริเวณใต้เครื่องใช้วัสดุเช่นเดียวกันด้าน Panel รอบๆ คือเป็นวัสดุแบบพลาสติกสีดำด้าน มีดีไซน์แบบเรียบๆเกือบทั้งหมด ยกเว้นในบริเวณช่องระบายอากาศและแถบบริเวณด้านหน้าที่เป็นที่ติดตั้งของลำโพงทั้งบริเวณริมฝั่งซ้ายและขวานั้น ได้มีการเล่นลวดลายเอาไว้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ดูสวยงามไม่น้อย ในบริเวณใต้เครื่องนี้จะมีเพียงช่องสำหรับเปิดเข้าไปในส่วนของอุปกรณ์ Hardware จำนวน 2 ช่อง และช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่เท่านั้นครับ

ความหนาของตัวเครื่องเมื่อมองจากด้านข้างอยู่ในระดับเกือบบางครับ เพราะดูไม่ค่อยแตกต่างจาก Notebook ในรุ่นปกติซักเท่าไรนัก

ในส่วนของภายในนั้น จะใช้วัสดุชนิดเดียวกันกับภายนอกทั้งในส่วนของสีสันและลวดลาย ทำให้ในส่วนนี้ที่มีการสัมผัสจากมือเกือบตลอดเวลา เกิดเป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายมาก รวมไปถึงตัวของคีย์บอร์ดเองก็เช่นกัน ที่มีพื้นผิวค่อนข้างมัน จึงทำให้สามารถเกิดคราบสกปรกต่างๆ รวมไปถึงรอยนิ้วมือที่สามารถสังเกตได้โดยง่าย ฉะนั้นแล้วใครที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด และความสวยงาม คงต้องหมั่นทำความสะอาดให้บ่อยซักหน่อย สำหรับ Toshiba เครื่องนี้ครับ นอกจากในส่วนของสีสันและรวดลายจากพื้นผิวหลักแล้ว การดีไซน์ในส่วนที่เหลือจะเน้นใช้งานในโทนสีดำ ทั้งในส่วนของคีย์บอร์ดและกรอบของหน้าจอ ทำให้ดูเป็นทูโทนที่ตัดกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว สรุปแล้วในส่วนของความสวยงามภายในจะถูกใจคุณผู้อ่านหรือไม่นั้น เราไปชมพร้อมๆกันทีละส่วนเลยดีกว่าครับ

ในส่วนแรกเราจะมาเริ่มต้นกันด้วยหน้าจอแบบ LED ขนาด 13.3” ที่มีโทนสีในบริเวณนี้เป็นสีดำอย่างที่ได้บอกไปแล้วนั้น จึงทำให้ตัดกันกับโทนสีแดงของตัวเครื่องได้อย่างลงตัว และเนื่องจากจอที่ว่านี้เป็นแบบชนิดกระจก จึงสามารถสะท้อนเงาของสิ่งต่างๆที่ตกกระทบได้อย่างชัดเจน ทำให้เข้ากันได้ดีกับลักษณะของตัวเครื่องที่มีความมันวาวและสะท้อนเงาของสิ่งต่างๆได้เช่นเดียวกัน แต่ความสวยงามที่ว่านี้ก็กลับกลายมาเป็นข้อเสียอีกด้วยครับ เนื่องจากเมื่อนำไปใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างมากๆ หรือแสงตกกระทบมาจากด้านหลัง จะทำให้เกิดเงาสะท้อนและความสว่างของจอก็จะลดลงไป จึงทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่หากพูดถึงกรณีที่ใช้งานตามปกติแล้ว หน้าจอที่มีความละเอียดสูงสุดแบบ HD 1366 x 768 Pixels นี้ ถือได้ว่าคมชัดไม่น้อยเลยทีเดียว และเมื่อนำไปรับชมภาพยนตร์ที่มีอัตราส่วนแบบ 16:9 แล้ว ภาพที่ออกมาก็ให้อรรถรสไม่แพ้จอแบบ Full HD เลยทีเดียว ในขณะเดียวกันเรื่องความสดใสของตัวสีนั้นก็ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ โดยถือได้ว่าเป็นจอที่มีความสดและสวยของสีเป็นอันดับต้นๆของเครื่องที่ผมเคยทดสอบมาทั้งหมดเลยก็ว่าได้ครับ ถัดมาในส่วนของขอบจอ บริเวณกึ่งกลางด้านบนจะเป็นที่ติดตั้งของกล้องเว็บแคมความละเอียด 1.3 Mega Pixels พร้อมไฟแสดงสถานะการใช้งาน ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ถูกติดตั้งลงบนพื้นผิวที่เป็นเหมือนกระจกเงา จึงทำให้บริเวณนี้โดดเด่นที่สุดในบริเวณของหน้าจอ และถัดไปไม่ไกลทางด้านซ้ายมือจะเป็นที่ติดตั้งของไมโครโฟนครับ

ตัวคีย์บอร์ด จะมีโทนสีหลักเป็นสีดำแบบมันวาว จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นขึ้นมาเนื่องจากการตัดกันกับโทนสีหลักของตัวเครื่อง แต่ในขณะเดียวกันความมันวาวนี้ก็ทำให้ต้องดูแลรักษากันเป็นพิเศษ เพราะเมื่อเกิดคราบสกปรกหรือรอยนิ้วมือ ก็จะสามารถสังเกตได้โดยง่าย ทำให้ดูเลอะเทอะกว่าความเป็นจริง ตัวปุ่มของคีย์บอร์ดนั้นถือได้ว่ามีขนาดที่ใหญ่มากเลยทีเดียวล่ะครับ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แม้จะเพิ่งสัมผัสเครื่องเป็นครั้งแรกก็สามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ อย่างไรก็ตามผมเองก็ยังคงมีปัญหากับเรื่องของสัญลักษณ์บนปุ่มฟังก์ชั่นคีย์ ที่ไม่สื่อความหมายเหมือนกับในรุ่นของ NB200 รวมไปถึงเรื่องลักษณะการเปิดปิดที่ค่อนข้างจะงงๆ แต่จากที่เคยใช้งานมาแล้ว ก็พอจะเดาๆได้บ้างว่าปุ่มไหนเป็นปุ่มไหน และใช้งานยังไง แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน อาจจะงงๆ กับฟังก์ชั่นของปุ่มพวกนี้ครับ

ถัดลงมาในส่วนของ Touchpad นั้น ถูกออกแบบให้เป็นเนื้อเดียวกันกับวัสดุของตัวเครื่อง แต่ทำให้มีความลึกลงไปจากพื้นที่ผิวปกติ จึงทำให้พบปัญหาเรื่องคราบสกปรกต่างๆเช่นเดียวกัน ในส่วนเรื่องของขนาดนั้นหากพิจารณาพื้นที่โดยรวมก็ต้องถือว่ามีขนาดที่ใหญ่มาก แต่หากพิจารณาดูตามด้านแล้วจะพบว่า แม้ด้านกว้างจะมีขนาดที่ใหญ่ แต่ในเรื่องชองความสูงกลับแคบอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่ค่อนข้างแปลกตาเลยทีเดียว และเมื่อทดลองใช้งานจริงก็พบว่าใช้งานได้อย่างติดๆขัดๆ เมื่อมีการเคลื่อนที่ของ cursor ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางแนวตั้ง ทั้งการเคลื่อนที่ขึ้นลง แล้วเฉียงขึ้นลง เพราะด้วยขนาดที่แคบของตัว Touchpad นี้จึงทำให้ต้องยกนิ้วหลายรอบเพื่อเคลื่อนที่ไปในแนวทางดังกล่าว แต่ในเรื่องของแนวนอนนั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเพราะขนาดกว้างมากๆ ในส่วนของระบบ Multitouch นั้น ก็พบว่ายังทำได้หน่วงๆเหมือนในหลายๆยี่ห้อ ไม่ลื่นเหมือนกับต้นตำหรับอย่าง Macbook และส่วนสุดท้ายในเรื่องของปุ่มคลิกนั้น มีการเลือกใช้งานวัสดุเป็นแบบโลหะมันวาวซึ่งสร้างความโดดเด่นได้มากที่สุดในส่วนนี้ และน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของอุปกรณ์ตัวนี้ เนื่องจากปุ่มคลิกมีขนาดที่ใหญ่และสามารถตอบสนองต่อแรงกดอย่างดีเยี่ยม

บานพับนั้นแม้จะดูเล็กและบอบบาง แต่จากการใช้งานจริงแล้วพบว่ามีความแข็งแรงที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในที่ที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือใช้งานในขณะที่มีการเคลื่อนไหว ก็ไม่มีอาการสั่นคลอนให้เห็น อีกทั้งตำแหน่งที่กางเอาไว้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ตัวบานพับเองก็สามารถเปิดปิดได้อย่างง่ายดาย ไม่มีความฝืดเคืองจนต้องออกแรงมาก ในส่วนของดีไซน์นั้น ตัวบานพับจะเป็นสีเดียวกันกับขอบหน้าจอคือ สีดำ รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ก็เป็นชนิดมันวาวเช่นเดียวกันครับ

1. ตรวจสอบรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม CPU-Z

จากรายละเอียดที่แสดงอยู่ในโปรแกรม CPU-Z นั้น ถือว่าตรงตามกับ Spec ของตัวเครื่องทุกอย่าง แต่มีจุดที่น่าสังเกตอยู่ 1 จุด นั่นก็คือเรื่องของความเร็วสัญญาณนาฬิกา ที่สามารถวิ่งได้เร็วถึง เกือบ 1.6 GHz เลยทีเดียว ต่างจาก Spec จริงที่ระบุไว้เพียง 1.4 GHz เท่านั้นครับ ถึงแม้ว่าความเร็วอาจจะดูต่ำไปซักหน่อย แต่เมื่อรวมเข้ากับ FSB 800 MHz และ L2 ขนาด 3 MB แล้ว ก็สามารถใช้งานประเภททั่วๆไปได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว แต่ถ้าอยากให้ตัวเครื่องทำงานได้อย่างลื่นๆแล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้ใส่ RAM ลงไปเต็ม 4 GB เลยดีกว่าครับ รับรองว่าให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างจาก Notebook ทั่วๆไปอย่างแน่นอน

2.ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยโปรแกรม PC Mark 05

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ

สำหรับคะแนนของตัวเครื่องนั้น แม้จะออกจะมาน้อยไปซักหน่อย อันเนื่องมาจาก CPU ในตระกูลประหยัดพลังงาน แต่ในการใช้งานทั่วไปนั้น ประสิทธิภาพที่ได้รับต้องถือว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากมาย สามารถทำงานได้อย่างครบครัน และหากใส่แรมลงไปเต็ม 4 GB แล้วล่ะก็ ตัวเครื่องจะสามารถทำงานได้อย่างราบลื่นไม่แพ้ Notebook ที่มี CPU ระดับเทพๆอย่างแน่นอน

3. ทดสอบประสิทธิภาพของกราฟิกด้วย 3D Mark 06

ผลการทดสอบประสิทธิภาพทางด้านกราฟิก

สำหรับผลที่ออกมานั้น ก็ตรงไปตามเนื้อผ้าทุกอย่าง และผมเองก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นคะแนนในส่วนนี้มากนัก เนื่องจาก CPU แบบประหยัดพลังงาน + GPU แบบ ออนบอร์ดนั้น จุดประสงค์หลักจริงๆ ก็คงมีไว้เพื่อทำงานระดับพื้นฐานทั่วไปนั่นเองครับ

4. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CPU Free Benchmark

ถือว่าทำได้ช้ามากเลยทีเดียว หากนำไปเปรียบเทียบกับ CPU แบบปกติ แต่การใช้งานทั่วๆไปที่ไม่ได้เน้นในเรื่องการประมวลผลนั้น CPU ระดับนี้ก็ค่อนข้างเหลือเฟือเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ Atom

5. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย Super PI

ผลที่ออกมาถือว่าทำได้ดีเกินคาดครับ จากที่คิดไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ 40 s แต่ผลที่ออกมาสามารถทำได้ 33 s เห็นอย่างนี้แล้วก็สบายใจได้เลยว่า ไม่มีอาการหน่วงเหมือน Atom อย่างแน่นอน

6. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune

ผลจากการอ่านข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลบน Hard Drive ถือว่าทำได้ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว หากเทียบกับตัวเครื่องที่ผ่านมือผมมาทั้งหมด

7.ทดสอบประสิทธิภาพของ Wireless LAN ด้วย Wireless Mon

แม้จะทำได้ไม่เต็ม 100% คือ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ระดับ 75% แต่จากการทดสอบใช้งานทั่วไปนั้น การจับสัญญาณและการรับส่งข้อมูลสามารถทำได้นิ่งไม่แพ้เครื่องระดับ 100% เลยล่ะครับ

8.ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon

การ ทดสอบจะทำโดยการนำมาใช้งานทั่วๆไป ได้แก่ เล่น internet ผ่าน Wireless LAN, พิมพ์งานในโปรแกรม MS Office, ฟังเพลง, ดูคลิป video ต่างๆ จากเว็บ Youtube ครับ ทั้งหมดนี้ใช้งานโดยปรับแสงและเสียงไปที่ระดับสูงสุดครับ ผลที่ออกมาถือว่าทำงานได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากปรับการใช้งานไปในโหมดประหยัดพลังงานแล้วล่ะก็ รับรองว่าตัวแบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันอย่างแน่นอนครับ

9.วัดอุณหภูมิของเครื่องด้วย Hardware Monitor

อุณหภูมิของตัวเครื่องนั้นอาจจะสูงไปซักหน่อยในการทำงานตามปกติ แต่เมื่อทดสอบโดยการทำงานในสภาพ Full Load อุณหภูมิก็สูงขึ้นมาเพียง 10 กว่าองศาเท่านั้น ถือว่าเย็นใช้ได้เลยทีเดียว หากนำไปเปรียบเทียบกับ Notebook แบบปกติ

10.ระบบเสียง

เรื่องของระบบเสียงของตัว T130 ที่ได้มาทดสอบนี้ ถือได้ว่ามีเสียงที่ค่อนข้างเบาเลยทีเดียว แม้จะมีการเปิด Option ต่างๆอย่างครบครันแล้ว หากใครที่เน้นในเรื่องของคุณภาพเสียงด้วย ก็อาจจะต้องหันไปหาอุปกรณ์เสริมอย่างหูฟังหรือลำโพงแบบต่อภายนอกแทน เพราะลำพังเสียงที่ขับออกมาได้นั้น ไม่เพียงพอที่จะสามารถใช้งานได้ในที่ที่เป็นแบบเปิด หรือมีเสียงเจ๊าะแจ๊ะจอแจครับ

Toshiba Portégé T130-D330T/TR เครื่องนี้ ถือเป็น Notebook ในตระกูล CULV อีกเครื่องที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นชื่อในเรื่องของความเบาที่สุด หรือบางที่สุดก็ตาม แต่ด้วยความสวยงามของดีไซน์ รวมไปถึงความมีประสิทธิภาพ ก็ทำให้ Toshiba เครื่องนี้โดดเด่นไม่แพ้เครื่องอื่นๆ อีกทั้งจากการทดลองใช้งานทั่วไปนั้น Toshiba เครื่องนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างจาก Core 2 Duo ทั่วไปนัก แม้จะมีอาการหน่วงในบางทีก็ตาม ซึ่งใครที่กำลังสนใจ Toshiba เครื่องนี้อย่างจริงๆจังๆ ผมขอแนะนำว่าให้นำ Toshiba เครื่องนี้ไปอัพเกรด RAM ให้เป็น 4 GB ก็จะทำให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างราบลื่นไม่เกิดอาการสะดุด เพราะจากการที่เคยทดสอบเครื่องที่ใช้งาน CPU เป็น Core 2 Solo แต่มี RAM เต็มแม็กซ์ถึง 4 GB ผลปรากฏว่าสามารถทำงานได้ลื่นไม่แพ้ Core 2 Duo เลยทีเดียว แต่ในการประมวลผลบางอย่างก็คงต้องยอมรับว่าจะให้ไปสู้ CPU แบบปกตินั้น ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะ CPU แบบประหยัดพลังงานนั่นเอง

สรุปแล้วใครที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพพร้อมๆกับความสามารถในการประหยัดพลังงาน  รวมไปถึงความสวยงามที่โดดเด่นสะดุดตา Toshiba T130 ในรุ่น Core 2 Duo แบบประหยัดพลังงานนี้ ก็เหมือนว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้เลยล่ะครับ ใครที่พอจะมีงบประมาณสูงขึ้นมาอีกซักนิดนึง ถ้าได้ลองไปสัมผัส Toshiba T130 ตัวจริงแล้ว ผมว่าคงจะทำให้ตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว

จุดเด่น

• ดีไซน์สวยสะดุดตา
• คีย์บอร์ดมีความสวยงาม ปุ่มมีขนาดใหญ่ สามารถพิมพ์ได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ
• หน้าจอความละเอียดแบบ HD ให้สีสันที่สวยงาม
• ใช้งานบนแบตเตอรี่ได้อย่างยาวนาน

ข้อสังเกต

• Touchpad แคบใช้งานได้ไม่สะดวกและระบบ Multitouch ทำงานได้ไม่ราบลื่น
• ใช้ระยะเวลาค่อนข้างมากในการชาร์จแบตเตอรี่ของ 1% สุดท้าย
• ลำโพงให้เสียงที่เบามาก
• เป็นคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายในทุกๆส่วน และสามารถสังเกตเห็นคราบสกปรกต่างๆได้ง่ายกว่าปกติ