Call Center
 
ACER
Tel: 02-685-4311
APPLE
Tel: 02-681-2054-6
ASUS
Tel: 02-401-1717
BENQ
Tel: 02-670-0310-11
COMPAQ
Tel: 02-654-0808
DELL
Tel: 1-800-006-007,02-670-7200
FUJITSU
Tel: 02-302-1500
GATEWAY
Tel: 02-685-4311
HP
Tel: 02-353-9000
LENOVO
Tel: 02-689-6400
MSI
Tel: 02-258-9337
SAMSUNG
Tel: 02-689-3232
SONY
Tel: 02-715-6100
SVOA
Tel: 02-686-9000
TOSHIBA
Tel: 02-511-7777
Samsung Samsung N220 หรูหรา ราคาเบาๆ
  
0 ความคิดเห็น 15,375 เข้าชม + Share to my
สวัสดีครับและสำหรับเครื่องต่อไปของเราก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Netbook จาก Samsung อีกหนึ่งตัวที่เราได้ทำการเกริ่นกันเอาไว้ตั้งแต่ในรีวิวครั้งก่อนว่า Samsung ประเทศไทยใจดีมากๆ ส่ง Netbook มาให้ทดสอบโดยพร้อมเพรียงกัน2 ตัว
Review Rating
Aesthetics
|
 
8.5
Performance
|
 
8
Features
|
 
8
Price Values
|
 
7.5
และสำหรับในส่วนของ Netbook ตัวที่สองจาก Samsung เครื่องนี้ ก็จะมาในชื่อรุ่นว่า N220 โดยเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีการปรับราคาลงมาถึง 2,000 บาทในงาน Commart และมีผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเช่นเดียวกับทาง N150 สำหรับ Samsung N220 เครื่องนี้ สิ่งที่แตกต่างจาก Samsung N150 จริงๆจะอยู่ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว หรือจะเรียกง่ายๆว่ายกเอาไส้ในของ Samsung N150 มาใส่ลงไปยัง Body ใหม่ก็ไม่ผิดครับ ดังนั้นราคาที่แตกต่างกันถึง 2,000 บาทนี้ จึงต้องมาวัดกันที่รูปร่างหน้าตาและวัสดุล้วนๆว่าจะคุ้มหรือไม่คุ้มอย่างไร หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ชอบหน้าตาของ Samsung N150 แล้วล่ะก็ ลองขยับมาอ่าน Review นี้กันเลยดีกว่าครับ



 

 

เมื่อกาง Spec ออกมาดูแล้วก็จะพบว่าระหว่าง Samsung N220 และ N150 นั้น จะแตกต่างกันเพียงแค่ในเรื่องของสัดส่วนและน้ำหนักเท่านั้น ที่ N220 ดูจะมากกว่าในทุกๆด้าน นอกนั้นแล้ว ทั้งสองรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นแผดคนละฝาเลยทีเดียว

 

 

               

 

 

สำหรับในส่วนแรกตรงบริเวณของฝาพับนั้น จะมาในสไตล์ Glossy ที่เป็นลักษณะคล้ายกับการเคลือบผิวชั้นนอกแบบใสลงไปทับพื้นผวด้านในที่เป็นลวดลายแบบนูนต่ำ ทำให้ดูเก๋ไก๋ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะหากมองผ่านๆจะนึกว่าตัวเครื่องมีผิวแบบขรุขระ แต่ความจริงแล้วเนื้อผิวจะเป็นแบบมันวาวดูหรูหราและสะดุดสายตาไม่น้อยเลยทีเดียว ถัดมาอีกหนึ่งจุดเด่นที่จะลืมพูดถึงไปไม่ได้ก็คือเรื่องของ Logo ยี่ห้อ Samsung ที่มาแบบโลหะแวววาวและมีความนูนออกมาพ้นผิวแบบเรียบๆ ทำให้สามารถเพิ่มความสวยหรูขึ้นไปได้อีกหลายระดับครับ

 

 

ทางด้าน Panel ฝั่งซ้ายนั้นจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟจาก Adaptor, ช่องสำหรับเชื่อมต่อสาย LAN, ช่องระบายอากาศที่ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบขนาดของตัวเครื่อง, ช่อง USB จำนวน 1 ช่องแบบSleep and Charge ที่สามารถจ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆได้แม้ในขณะปิดเครื่อง ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนสุดท้ายนั้นจะได้แก่ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนและช่องเชื่อมต่อหูฟัง อ๊ะๆอย่าหาว่าผมเบลอจน Copy ของเก่ามาลงนะครับ เพราะผมบอกแล้วว่าทั้ง 2 เครื่องนี้เหมือนกันอย่างกับแกะเลยทีเดียว นั่นจึงทำให้การจัดวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆมีลักษณะเหมือนกันนั่นเอง แต่ในส่วนของสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆนั้น จะเปลี่ยนมาพิมพ์ในบริเวณข้างๆของช่องเชื่อมต่อต่างๆแทนครับ

 

 

ในส่วน Panel ด้านหน้านั้นจะประกอบไปด้วย Card Reader และ Switch เปิดปิดตัวเครื่องเท่านั้นครับ ไม่มีไฟแสดงสถานะต่างๆตรงบริเวณนี้เหมือนอย่างรุ่น N150 เนื่องจากได้ย้ายขึ้นไปติดตั้งบริเวณด้านในแทนครับ (เหมือนได้ยินเสียงติชม ^^) เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์ที่ไม่ดีมีการโชว์เอาไว้ด้านในแต่อย่างไร ยกเว้นสัญลักษณ์ของไฟแสดงสถานะต่างๆครับ

 

 

สุดท้ายบริเวณฝั่งขวาจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington, ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ VGA, ส่วนสุดท้ายได้แก่ USB จำนวน 2 ช่อง ซึ่งเมื่อรวมจำนวน USB ทั้งหมดแล้วก็เท่ากับว่ามี USB มาให้ใช้งานถึง 3 ช่องด้วยกัน ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างครบครันมากกว่า Netbook ที่มีจำนวน USB เพียง 2 ช่องครับ (เหมือนจะ Copy มาอีกแล้ว ^^) และก็เช่นเดียวกันครับ ที่สัญลักษณ์ถูกย้ายลงมาไว้ข้างๆช่องเชื่อมต่อต่างๆแทน

 

 

                ทางด้านใต้ตัวเครื่องนั้นจะมาในโทนสีดำครับ แต่ในส่วนของดีไซน์หลักๆ ก็จะเป็นแบบเดียวกับ N150 อีกเช่นเดียวกัน รวมไปถึงในเรื่องของวัสดุที่เป็นแบบด้านๆทั่วไปด้วยครับ ในส่วนของช่องที่เปิดเข้าไปสู่อุปกรณ์ต่างๆภายในตัวเครื่องนั้น Samsung N220 เครื่องนี้ก็จะมีเพียงช่องสำหรับการจัดการกับ RAM เพียงช่องเดียวเช่นกัน ถัดมาในส่วนของช่องบริเวณมุมซ้ายและขวาด้านหน้าตัวเครื่องนั้นก็จะเป็นที่สำหรับติดตั้งลำโพงนั่นเองครับ เป็นยังไงบ้างล่ะครับ ดูกันมาจนครบทุกด้านอย่างนี้แล้ว เชื่อผมรึยังล่ะว่าเหมือนกันอย่างกะแฝดคนละฝาจริงๆ

ป.ล. เมื่อถอด Battery ออกจะเห็นว่ามีช่องสำหรับใส่ซิมด้วย แต่สำหรับเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ไม่มี Module นี้มาให้ใช้แต่อย่างไร

 

 

                Battery ความจุ 5900 mAh เมื่อเทียบกับ Samsung N150 แล้วมีความจุมากกว่าถึง 1900 mAh

 

 

ความหนาเมื่อดูจากบริเวณด้านข้างนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่า หน้ากว่า Samsung N150 อย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อพิจารณาดีไซน์ทั้งหมดแล้ว ก็ต้องถือว่าหนากว่าอย่างลงตัว และทำให้เครื่องดูหรูหราหนักแน่นอีกด้วยครับ

 

 

 

 

 

 

หน้าจอของ Samsung N220 นี้ ก็ยังคงเป็นอีก 1 จุดที่เหมือนกันกับ Samsung N150 โดยจะใช้งานหน้าจอเป็นชนิด TFT ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกๆสภาวะแสงไม่เกิดการรบกวนของแสงสะท้อนต่างๆเหมือนกับจอกระจก นอกจากนี้ก็ยังมีข้อดีในเรื่องของการเกิดคราบสกปรกต่างๆที่เกิดขึ้นได้ยากกว่าจอแบบกระจกอีกด้วย ถัดมาในส่วนของการแสดงผลและเฉดสีต่างๆของ Samsung เครื่องนี้ ก็มีมาตรฐานเช่นเดียวกันกับจอของ Samsung N150 โดยแม้ว่าจะไม่ได้มีเฉดสีที่สดสวยที่สุดเท่าที่เคยผ่านตามา แต่ก็ถือว่าสามารถทำออกมาได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานของจอแบบ TFT ของ Netbook ครับ ในส่วนของขอบจอบริเวณด้านบนจะเป็นที่ติดตั้งของกล้องเว็บแคม ที่มีการตกแต่งด้วยเส้นขอบแบบวงกลมสีแดงรอบๆตัวกล้อง (เหมือน N150 อีก 1 จุด) แต่ในเรื่องของวัสดุขอบจอนั้น Samsung N220 จะแตกต่างจาก N150 ในเรื่องของการใช้งานเป็นพลาสติกเนื้อด้านชนิดเดียวกับที่ใช้บริเวณใต้เครื่อง ทำให้ดูสวยตัดกันกับ Theme หลักของเครื่องที่เป็นแบบ Glossy ได้เป็นอย่างดี

 

 

ตัวคีย์บอร์ดของ Samsung N220 นั้น จะมาในแบบ Chiclet แท้ๆ ไม่ได้ดูก้ำกึ่งเหมือนอย่างในรุ่น N150 ทำให้ดูสวยงาม และหรูหราสมกับราคาที่ต่างกันถึง 2,000 บาทครับ ยิ่งเมื่อนำไปรวมเข้ากับตัวเครื่องแล้ว ก็คงต้องบอกเลยว่า Samsung เครื่องนี้ ดูหรูเป็นอันดับต้นๆของตลาดเลยทีเดียว ทางด้านการใช้งานนั้น เนื่องจากดีไซน์ที่เป็นแบบ Chiclet และมีตัวปุ่มที่ค่อนข้างใหญ่นี้ จึงทำให้สามารถพิมพ์ได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ เรียกได้ว่างานนี้มาครบทั้งความสวยและความเก่งในหนึ่งเดียวเลยล่ะครับ

 

 

ทางด้าน Touchpad นั้นนอกจากจะมีขนาดใหญ่จนสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ยังมีระบบ Multi-Touch ติดมาให้ใช้งานด้วยอีกต่างหาก ทำให้การสั่งงานต่างๆเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ข้อดีในเรื่องของขนาดที่ทำให้สามารถเคลื่อนที่ Cursor ไปได้ไกลกว่า Netbook ทั่วๆไปในตลาดแล้ว ยังมีผลทำให้การสั่งงานในลักษณะของ Multi-Touch เป็นไปอย่างราบลื่นแล้วแม่นยำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหมุนรูปหรือย่อขยายรูป ก็สามารถที่จะทำได้อย่างคล่องตัว ในส่วนของปุ่มคลิกก็มีความนุ่มมือเหมือนกับรุ่น N150 ครับ

 

 

 

              ตัวยึดระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องนั้นเป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมือนกับ N150 ทุกกระเบียดนิ้วครับ โดยจะเป็นวัสดุชนิดเดียวกันกับขอบจอ แต่จะมีลักษณะเป็นแบบสลักที่มีขอบจอในการปิดทับเอาไว้อีกชั้นนึง จึงดูแข็งแรงมากกว่าตัวยึดที่เป็นลักษณะเชื่อมติดกับขอบจอครับ และจากการทดสอบในการใช้งานตามสภาวะต่างๆนั้น พบว่ามีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะมีแรงสั่นไหวแบบใดเกิดขึ้นก็ตาม

 

 

                Sticker และไฟแสดงสถานะต่างๆบนตัวเครื่อง

 

 




1. ตรวจสอบรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม CPU-Z

 

 

จากการตรวจสอบด้วยโปรแกรม CPU-Z แล้ว พบว่า Spec ทั้งหมดตรงตามที่ระบุไว้ทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของ CPU, Chipset, RAM และ GPU หรือการ์ดจอครับ แต่จะมีข้อสังเกตนิดหน่อยในเรื่องของการกินไฟเมื่อตัว CPU ทำงานอย่างเต็ม 100% ครับ โดย Samsung N220 เครื่องนี้จะกินไฟน้อยกว่า 0.038 V ครับ แต่ก็ไม่ต้อง Serious ในส่วนนี้มากมายครับ เพราะตามปกติแล้วแม้ว่าจะเป็น Notebook หรือ Netbook ในรุ่นเดียวกันก็ตาม ตัว CPU แต่ละตัวก็จะมีความแตกต่างกันนิดหน่อยในเรื่องของความเร็วและการกินไฟครับ

 

 

2. ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยโปรแกรม PC Mark 05

 

 

 

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ

สำหรับ Samsung N220 เครื่องนี้ก็จะมีจุดเด่นเช่นเดียวกันกับ Samsung N150 นั้น ในเรื่องของการปรับความละเอียดตามมาตรฐานจาก 1024x600 ไปเป็น 1024x768 ได้ เมื่อโปรแกรมนั้นๆต้องการความละเอียดที่สูงกว่า ทำให้คะแนนของตัวเครื่องที่ออกมานั้นมีคะแนนทดสอบครบถ้วน แตกต่างจาก Netbook โดยส่วนใหญ่ในตลาดครับ สำหรับค่าคะแนนที่วัดออกมาได้นี้ ก็ถือว่าตัวเครื่องมี่ประสิทธิภาพที่ดีมากในระดับ Netbook ครับ และหากเทียบกันกับ N150 ก็จะพบว่ามีคะแนนที่สูงกว่าอีกด้วย

 

 

3. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย Super PI

 

 

ในส่วนของคะแนนจาก Super PI นี้ กลับกลายเป็นว่า Samsung N220 ทำได้ช้าว่า N150 ประมาณ 0.7 วินาทีครับ แต่ด้วยความแตกต่างที่ไม่มากนี้ ทั้งสองเครื่องจึงจัดได้ว่ามีประสิทธิภาพที่พอๆกัน

  




4. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CINEBENCH

 

 

โปรแกรมนี้จะเป็นการทดสอบการทำงานของตัว CPU โดยการ Render ภาพครับ ซึ่งจะมีทั้งการ Render แบบธรรมดา และแบบการใช้งานแบบ Multi-Core ซึ่งผลที่ออกมานั้น Samsung N220 ก็ยังคงเป็นรอง N150 อยู่นิดหน่อยครับ

 

 

5. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CPU Free Benchmark

 

 

สำหรับผลของโปรแกรมทดสอบความสามารถของ CPU ในโปรแกรมสุดท้ายนี้ก็ยังคงเป็น Samsung N150 ที่ทำได้เหนือกว่าเครื่อง N220 ของเราในวันนี้ครับ





6. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune

 

 

               ผลของ Average Transfer Rate และ Access Time นั้น Samsung N220 กลับมาทำได้ดีกว่า N150 ทั้งสองด้านครับ




7.ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon

 

 


                การทดสอบจะทำโดยการนำมาใช้งานทั่วๆไป ได้แก่ เล่น internet ผ่าน Wireless LAN, พิมพ์งานในโปรแกรม MS Office, ฟังเพลง, ดูคลิป video ต่างๆ จากเว็บ Youtube ครับ ทั้งหมดนี้ใช้งานโดยปรับแสงและเสียงไปที่ระดับสูงสุดครับ ผลที่ออกมาต้องถือว่าทำออกมาได้สุดยอดเลยล่ะครับ เพราะใช้งานได้ราวๆ 6 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว มากกว่า Samsung N150 อยู่เกือบ 2 เท่า ทั้งนี้เป็นเพราะความจะของ Battery ที่มากกว่านั่นเองครับ ในเรื่องของเวลาชาร์จอาจจะดูว่ามากไปนิด เพราะใช้เวลาไปถึง 3 ชั่วโมงด้วยกัน แต่หากเทียบกับระยะเวลาที่ใช้งานได้แล้ว งานนี้ต้องบอกว่าประสิทธิภาพของการชาร์จเทียบกับการใช้นั้นอยู่ในระดับที่ดีมากอีก 1 จุดครับ

 

ป.ล.การแสดงผลของระยะเวลาในการใช้งานเกิดความผิดพลาดขึ้นนิดหน่อย เมื่อเครื่องตัดเข้าสู่ระบบ Hibernate ก่อนการ Save ภาพครับ



 

8.วัดอุณหภูมิของเครื่องด้วย Hardware Monitor


อุณหภูมิของตัวเครื่องนั้น แม้ว่าจะสูงกว่า Samsung N150 อยู่พอสมควร แต่เมื่อเทียบเฉพาะอุณหภูมิขณะใช้งานปกติกับในขณะที่การทำงานอย่างเต็มที่นั้น จะพบว่ามีอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเพียง 12 องศา ถือว่าการระบายความร้อนก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ เพราะอุณหภูมิห้องขณะทดสอบ Samsung N150 และ Samsung N220 นั้น ก็ไม่เท่ากันด้วย นอกจากนี้จากการทดสอบใช้งานแล้วก็พบว่าอุณหภูมิระดับ 50 องศานั้นสามารถใช้งานได้อย่างสบายๆ ไม่เกิดอาการร้อนจนผิดปกติครับ

 

9.ทดสอบประสิทธิภาพของ Wireless LAN ด้วย Wireless Mon

 

 

ประสิทธิภาพในการจับสัญญาณ เมื่อทดสอบด้วยการวางห่างจากตัว Access Point เป็นระยะทาง 5 m ผลที่ออกมานั้น แม้จะใช้งานตัวรับสัญญาณเป็นแบบเดียวกับ Samsung N150 แต่จากกราฟจะเห็นได้ว่ามีช่วงแกว่งของสัญญาณเล็กน้อย แต่โดยเฉลี่ยแล้วก็ถือว่ารับสัญญาณได้ 100% และใช้งานได้อย่างราบลื่นครับ

 

ใครที่อ่าน Review ของ Samsung N150 ไปแล้วรู้สึกว่าชอบ Spec แต่ติดที่รูปร่างก็ไม่ต้องเสียใจไปครับ เพราะว่าทาง Samsung ก็ได้ทำการถอดเอาประสิทธิภาพมาใส่ไว้ในกรอบใหม่อย่าง N220 เครื่องนี้ (อย่างกะ Avatar) ฉะนั้นแล้วใครที่ไม่ติดสินใจเลือก Samsung ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน มาถึงตอนนี้คงไม่มีข้ออ้างกันแล้วนะครับ ^^ สรุปแล้วการตลาดครั้งนี้ของ Samsung ถือได้ว่าเป็นการออก Netbook ที่มองได้ 2 แง่เลยทีเดียว มุมแรกคือ จะออกมาทำไมตั้ง 2 รุ่น ทั้งๆที่ต่างกันแค่หน้าตา นอกนั้นเหมือนกันหมดแถมราคายังแพงกว่าด้วย แต่เราต้องอย่าลืมครับว่า ผู้ใช้บางกลุ่มก็มองในเรื่องของดีไซน์ประกอบกันด้วย นั่นจึงเป็นมุมที่ 2 ที่มองได้ว่าเป็นการเดินเกมที่สร้างสรรค์ของทาง Samsung ครับ เพราะสามารถกุมเอากลุ่มลูกค้าหลักๆเอาไว้ได้เกือบทั้งหมด ที่สำคัญ ราคาของตัวเครื่องเมื่อเทียบกับทั้ง 2 กลุ่มนั้น ต้องถือว่าเป็นต่อเหนือคู่แข่งหลายเท่าจริงๆ งานนี้ใครที่กำลังมองหา Netbook แต่ไม่อยากลังเลใจ ก็คงจะเสร็จ Samsung อย่างแน่นอนครับ เพราะเค้ามีอย่างครบครันจริงๆ

จุดเด่น

  • ดีไซน์สวยงาม หรูหรา
  • Touchpad มีขนาดใหญ่ + ระบบ Multi-Touch ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกคล่องแคล่ว
  • หน้าจอแบบ TFT สามารถใช้งานได้ทุกสภาวะแสง
  • Battery มีความจุสูงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

ข้อสังเกต

  • ตัวเครื่องมาในสไตล์ Glossy ทำให้เกิดคราบสกปรกจนสังเกตเห็นได้ง่าย
  • ปุ่มเปิดปิดแบบ Slide ใช้งานได้ไม่สะดวก
  • ตัวเครื่องค่อนข้างหนา
  • สัญลักษณ์ของช่องเชื่อมต่อต่างๆมีขนาดเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นลำบาก
Design 8.5
Performance 8
Feature 8
Value 7.5
Overall 8.0
Comments Top

world vision