โดยสำหรับในรุ่นแรกที่จะถูกเรานำมาตีแผ่กันนั้น จะได้แก่รุ่น N150 ที่มีการปรับราคาลดลงมาถึง 2,000 บาท ตั้งแต่ในงาน Commart จนมาถึงปัจจุบัน ส่งผลให้กลายเป็น Netbook ที่มาพร้อมกับ CPU ของ Intel Atom รุ่นใหม่อย่าง N450 และ Windows7 ในรุ่น Starter แบบลิขสิทธิ์ที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด และถึงแม้ว่า Samsung N150 รุ่นนี้ จะมีราคาที่ถูกมากหากเทียบกับ Netbook จากยี่ห้ออื่นๆ แต่ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกกลับไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างไร มิหนำซ้ำด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย จึงทำให้ดูดีกว่า Netbook จากบางยี่ห้อด้วยซ้ำไปครับ สำหรับจุดเด่นของ Netbook จาก Samsung เครื่องนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะครับว่าอยู่ที่เรื่องของราคา แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีดีแค่เรื่องนี้รึเปล่า ผมมีผลการทดสอบให้ดูครับ ถ้าอยากรู้กันแล้วเราไปเริ่มกันเลย
เมื่อเทียบกับทาง msi เมื่อฉบับที่แล้วก็คงต้องบอกว่าเป็นแฝดคนละฝากันเลยทีเดียว ทั้งในส่วนของ Spec และราคา แตกต่างกันเพียงในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกที่คงต้องพูดกันอย่างตามตรงว่า Samsung เครื่องนี้ดูสวยสดใสมากกว่าครับ ว่าแล้วเราก็ไปชมสัดส่วนภายนอกกันเลยดีกว่า
ส่วนแรกในบริเวณของฝาพับนั้น เนื่องจากเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบเป็นสีขาว จึงทำให้พื้นผิวของบริเวณนี้จะมีลักษณะด้านและเปล่งประกายเป็นสีมุกเมื่อมีแสงมากระทบ ส่วนในสีอื่นๆที่วางจำหน่ายจะมีพิ้นผิวเป็นแบบ Glossy ครับ สำหรับข้อดีของตัวเครื่องสีขาวที่เราได้มาทดสอบนี้ นอกจากเรื่องของความสวยงามเมื่อมีแสงมาตกกระทบจนทำให้ดูหรูหราแล้ว ก็ยังมีข้ดดีในเรื่องของการเช็ดทำความสะอาดที่สามารถทำได้ง่ายกว่า รวมถึงการเกิดรอยนิ้วมือและคราบสกปรกต่างๆที่น้อยกว่าผิววัสดุแบบ Glossy อีกด้วยครับ
ทางด้าน Panel ฝั่งซ้ายนั้นจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟจาก Adaptor, ช่องสำหรับเชื่อมต่อสาย LAN, ช่องระบายอากาศที่ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบขนาดของตัวเครื่อง, ช่อง USB จำนวน 1 ช่องแบบSleep and Charge ที่สามารถจ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆได้แม้ในขณะปิดเครื่อง ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนสุดท้ายนั้นจะได้แก่ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนและช่องเชื่อมต่อหูฟัง สำหรับสัญลักษณ์ในการบ่งบอกชนิดของช่องเชื่อมต่อนั้นจะถูกพิมพ์อยู่บริเวณด้านใน ข้างๆคีย์บอร์ดทำให้สามารถสังเกตได้ง่าย ไม่ต้องก้มลงไปดูเหมือนกับเครื่องอื่นๆจากยี่ห้ออื่นๆครับ
ในส่วน Panel ด้านหน้านั้นจะประกอบไปด้วย ไฟแสดงสถานะต่างๆที่สามารถใช้งานได้ยาก เนื่องจากในการใช้งานบางครั้งที่ตัวเครื่องวางต่ำกว่าระดับสายตามากๆ เช่น การวางบนตัก จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นไฟได้ถนัดนัก จนต้องก้มลงไปมอง หรือแหงนตัวเครื่องขึ้น ซึ่งถือว่าไม่สะดวกเท่าที่ควร ถัดมาจะเป็น Card Reader และส่วนสุดท้ายได้แก่ Switch เปิดปิดตัวเครื่องนั่นเอง สำหรับสัญลักษณ์ต่างๆที่ใช้บ่งบอกหน้าที่จะถูกพิมพ์ไว้ในบริเวณด้านในเช่นเดียวกัน โดยจะอยู่ทางด้านล่างของคีย์บอร์ด
สุดท้ายบริเวณฝั่งขวาจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington, ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ VGA, ส่วนสุดท้ายได้แก่ USB จำนวน 2 ช่อง ซึ่งเมื่อรวมจำนวน USB ทั้งหมดแล้วก็เท่ากับว่ามี USB มาให้ใช้งานถึง 3 ช่องด้วยกัน ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างครบครันมากกว่า Netbook ที่มีจำนวน USB เพียง 2 ช่องครับ
ถัดมาในส่วนด้านใต้ตัวเครื่องนั้นจะมาในโทนสีเดียวกับที่ใช้งานอยู่ในด้านบน นั่นก็คือสีขาวครับ แต่จะแตกต่างกันในส่วนของเนื้อวัสดุที่เป็นแบบด้านๆทั่วไป สำหรับในส่วนของช่องที่เปิดเข้าไปสู่อุปกรณ์ต่างๆภายในตัวเครื่องนั้น Samsung N150 ตัวนี้จะมีเพียงช่องสำหรับการจัดการกับ RAM เท่านั้นครับ หากต้องการเข้าถึงอุปกรณ์มากกว่าก็จำเป็นที่จะต้องเปิดขึ้นมาทั้งฝาเลยทีเดียว ส่วนสุดท้ายในเรื่องของช่องระบายอากาศต่างๆ Samsung เครื่องนี้ถือได้ว่ามีช่องระบายอากาศที่มีจำนวนไม่น้อยเลยล่ะครับ หากเทียบกับ Netbook ทั่วๆไปตามท้องตลาด
Battery ความจุ 4000 mAh
ความหนาเมื่อดูจากบริเวณด้านข้างนั้น ถือว่ามีขนาดที่ค่อนข้างหนาเกินไปหน่อย หากเทียบกับ Netbook เครื่องอื่นๆในท้องตลาด แต่ความหนาของ Samsung N150 เครื่องนี้ ก็ไม่ได้หนาจนเทอะทะจนทำให้พกพาลำบากแต่อย่างไร ยังถือว่าหนาในระดับที่รับได้ครับ
หน้าจอของ Samsung N150 เครื่องนี้จะเป็นแบบ TFT ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกๆสภาวะแสงไม่เกิดการรบกวนของแสงสะท้อนต่างๆเหมือนกับจอกระจก นอกจากนี้ก็ยังมีข้อดีในเรื่องของการเกิดคราบสกปรกต่างๆที่เกิดขึ้นได้ยากกว่าจอแบบกระจกอีกด้วย ถัดมาในส่วนของการแสดงผลและเฉดสีต่างๆของ Samsung เครื่องนี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีเฉดสีที่สดสวยที่สุดเท่าที่เคยผ่านตามา แต่ก็ถือว่าสามารถทำออกมาได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานของจอแบบ TFT ของ Netbook แล้วล่ะครับ ในส่วนของขอบจอบริเวณด้านบนจะเป็นที่ติดตั้งของกล้องเว็บแคม ที่มีการตกแต่งด้วยเส้นขอบแบบวงกลมสีแดงรอบๆตัวกล้อง จึงทำให้โดดเด่นเป็นพิเศษบนพื้นสีขาวแบบนี้ครับ ทางด้านความคมชัดนั้นสามารถทำออกมาได้ตามมาตรฐานของความละเอียด แต่จุดเด่นจริงๆจะอยู่ในเรื่องของประสิทธิภาพที่สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อใช้งานในที่ที่มีแสงน้อยครับ
ตัวคีย์บอร์ด จะเป็นแบบกึ่งๆ Chiclet คือ แต่ละปุ่มจะถูกแยกออกจากกันอย่างอิสระ แต่ไม่ได้ถูกยกลอยขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับแบบ Chiclet นอกจากนี้ในแต่ละปุ่มเองก็ยังถูกดีไซน์มาในแบบโค้งมนตามบริเวณมุมต่างๆ ซึ่งเมื่อดูๆไปแล้วก็ถือว่าดีไซน์ออกมาได้น่ารักเหมาะกับตัวเครื่องสไตล์ Netbook เป็นอย่างดี สำหรับทางด้านการใช้งานนั้น พบว่าตัวเครื่องสามารถพิมพ์ได้อย่างคล่องมือและแม่นยำ เนื่องจากปุ่มมีขนาดที่ใหญ่และถูกแยกออกจากกันอย่างอิสระนั่นเอง
ในส่วนของ Touchpad จาก Samsung เครื่องนี้ ถือได้ว่ามีขนาดที่ใหญ่เลยทีเดียวหากเทียบกับ Netbook เครื่องอื่นๆในตลาด ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถที่จะเคลื่อนตัว Cursor จากขอบด้านนึงไปถึงอีกด้านนึงได้โดยไม่จำเป็นต้องยกนิ้วขึ้นแต่อย่างไร ซึ่งสามารถทำให้การใช้งานของ Touchpad นั้น มีประสิทธิภาพมากกว่า Netbook โดยทั่วๆไปในท้องตลาดครับ สำหรับในส่วนของปุ่มคลิกนั้นก็ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่และสามารถวางนิ้วกดลงไปได้อย่างแม่นยำ ชนิดที่ไม่ต้องเล็งว่าจะวางไปถูกตำแหน่งมั้ย เหมือนอย่าง Netbook จากบางยี่ห้อ นอกจากนี้ในเรื่องของความนิ่มก็ยังทำออกมาได้ดีอีกด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แรงในการกดมากจนเกินไป
ตัวยึดระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องนั้น จะเป็นวัสดุชนิดเดียวกันกับขอบจอ แต่จะมีลักษณะเป็นแบบสลักที่มีขอบจอในการปิดทับเอาไว้อีกชั้นนึง จึงดูแข็งแรงมากกว่าตัวยึดที่เป็นลักษณะเชื่อมติดกับขอบจอครับ และจากการทดสอบในการใช้งานตามสภาวะต่างๆนั้น พบว่ามีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะมีแรงสั่นไหวแบบใดเกิดขึ้นก็ตาม
1. ตรวจสอบรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม CPU-Z
จากการตรวจสอบด้วยโปรแกรม CPU-Z แล้ว พบว่า Spec ทั้งหมดตรงตามที่ระบุไว้ทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของ CPU, Chipset, RAM และ GPU หรือการ์ดจอครับ
2. ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยโปรแกรม PC Mark 05
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ
สำหรับคะแนนของตัวเครื่องที่ออกมานั้น ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่า Netbook เครื่องอื่นๆในตลาดกว่า 90% เลยทีเดียว เพราะสามารถทำคะแนนในส่วนของด้านกราฟิกออกมาได้ด้วย เนื่องจากว่าหน้าจอของ Samsung N150 นั้น สามารถที่จะปรับความละเอียดตามมาตรฐานจาก 1024x600 ไปเป็น 1024x768 ได้ เมื่อโปรแกรมนั้นๆต้องการความละเอียดที่สูงกว่าครับ ซึ่งก็ตรงตามความต้องการขั้นต่ำของโปรแกรม PC Mark พอดี ทำให้งานนี้นอกจากจะได้คะแนนทดสอบที่ครบถ้วนแล้ว ยังทำให้เราได้รู้อีกว่า Netbook จาก Samsung เครื่องมีความละเอียดของหน้าจอที่สูงกว่า Netbook ทั่วไปครับ
3. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย Super PI
ผลที่คะแนนออกมานั้น สามารถทำได้เร็วกว่า msi u135 อยู่ประมาณ 1.6 วินาทีครับ แต่ทั้งสองเครื่องนี้ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพที่จัดอยู่ในระดับเดียวกัน
4. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CINEBENCH
โปรแกรมนี้จะเป็นการทดสอบการทำงานของตัว CPU โดยการ Render ภาพครับ ซึ่งจะมีทั้งการ Render แบบธรรมดา และแบบการใช้งานแบบ Multi-Core ซึ่งผลที่ออกมานั้น ก็นับว่าเป็นอีก 1 โปรแกรมที่ Samsung เครื่องนี้สามารถทำผลงานออกมาได้ดีกว่า msi อยู่นิดหน่อยในทุกๆด้าน
5. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CPU Free Benchmark
สำหรับผลของโปรแกรมทดสอบความสามารถของ CPU ในโปรแกรมสุดท้ายนี้ก็ยังคงเป็น Samsung อีกเช่นเคยที่สามารถทำออกมาได้ดีกว่าครับ
6. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune
ผลของ Average Transfer Rate นั้น ทำออกมาได้เร็วกว่าระดับมาตรฐานของเครื่อง Notebook และ Netbook ในปัจจุบันนิดหน่อยครับ แต่สำหรับในส่วนของ Access Time นั้นถือว่าทำออกมาได้ช้ากว่าระดับมาตรฐานนิดหน่อยเช่นกัน
7.ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon
การทดสอบจะทำโดยการนำมาใช้งานทั่วๆไป ได้แก่ เล่น internet ผ่าน Wireless LAN, พิมพ์งานในโปรแกรม MS Office, ฟังเพลง, ดูคลิป video ต่างๆ จากเว็บ Youtube ครับ ทั้งหมดนี้ใช้งานโดยปรับแสงและเสียงไปที่ระดับสูงสุดครับ ผลที่ออกมาต้องถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว เพราะขนาดใช้งานตัวเครื่องแบบเต็มความสามารถไปถึงขนาดนี้แล้ว Battery ก็ยังอยู่ทนถึง 3 ชั่วโมงครึ่งด้วยกัน ถ้าหากเราใช้กันอย่างประหยัดๆแล้ว แน่นอนว่าตัวเครื่องต้องสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่านี้ครับ ในส่วนของเวลาชาร์จนั้นก็สามารถทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน เพราะใช้เวลาไปแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถทำให้ Battery สุดทนเครื่องนี้เต็มได้ครับ
8.วัดอุณหภูมิของเครื่องด้วย Hardware Monitor
อุณหภูมิของตัวเครื่องนั้น ถือว่าย็นใช้ได้เลยทีเดียว เพราะมีอุณหภูมิขณะใช้งานปกติอยู่ที่ระดับ 41 องศาเท่านั้น ในขณะที่การทำงานอย่างเต็มที่ก็มีอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเพียง 13 องศา นอกจานี้ระหว่างที่ทำการทดสอบก็ไม่พบอาการ Hang หรือความผิดปกติให้พบเห็นแต่อย่างไร จึงถือได้ว่าระบบระบายความร้อนของ Netbook เครื่องนี้สามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้ใครเลยล่ะครับ
9.ทดสอบประสิทธิภาพของ Wireless LAN ด้วย Wireless Mon
ประสิทธิภาพในการจับสัญญาณ เมื่อทดสอบด้วยการวางห่างจากตัว Access Point เป็นระยะทาง 5 m ผลที่ออกมานั้น ปรากฏว่าสามารถจับได้นิ่งและเต็ม 100% ครับ
สำหรับ Netbook จาก Samsung เครื่องนี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่เป็นต่อ เหมือนอย่าง Netbook บางรุ่นที่หยิบขึ้นมาปุ๊บ ใครๆก็ต้องหันมามองปั๊บ แต่เมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่ายิ่งโดยเฉพาะกับเรื่องของราคาแล้ว ก็จะพบกับความสวยงามที่มาจากภายใน เพราะอุปกรณ์ต่างๆที่ Samsung N150 เครื่องนี้เลือกใช้นั้น ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า Netbook เครื่องอื่นๆในตลาด แม้จะมีราคาที่ถูกแสนถูกก็ตาม มิหนำซ้ำยังมาพร้อมกับ Windows 7 แบบลิขสิทธิ์อีกซะด้วย ซึ่งแน่นอนว่าราคานี้หาไม่ได้ง่ายๆอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในส่วนของหน้าจอแบบ TFT ที่ Samsung เลือกใช้นั้นก็ยังสามารถที่จะทำงานได้ดีในทุกสภาวะแสงอีกด้วย จึงทำให้เป็นประโยชน์กับเครื่องประเภท Netbook ที่เน้นในเรื่องของการพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆมากกว่าจอประเภทกระจก ที่แม้จะดูสวยสดใสกว่าแต่ก็มีอุปสรรคในเรื่องของแสงมารบกวน สรุปแล้วใครที่เน้นในเรื่องของความคุ้มค่าเป็นหลักแล้วล่ะก็ Samsung N150 เครื่องนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามครับ
จุดเด่น
ข้อสังเกต
Design | 7.5 |
Performance | 8 |
Feature | 8 |
Value | 8.5 |
Overall | 8.0 |