HP Envy 13 หรูหรา... น่าหลงใหล
     
3 ความคิดเห็น 2,337 เข้าชม + Share to my
สวัสดีครับยินดีต้อนรับเข้าสู่ Review ฉบับแรกจากทาง nb888 (Notebook888) ครับ หลายๆท่านอาจจะงงว่า แล้ว Review ฉบับอื่นๆล่ะ ไม่ใช่ของ nb888 หรอ แล้วสรุปเป็น Review จากไหน ทำไมเขียนดีจัง... ^^ ความจริงแล้ว Review พวกนั้นเกิดจากความที่เว็บของเรายังไม่เรียบร้อย จึงทำให้ต้องไปยืม Review มาจากนิตยสาร Notebookplus มานำเสนอไปพลางๆก่อน แต่มาในวันนี้เมื่อทุกอย่างลงตัว Review ของเราเองก็มาครับ
Review Rating
Aesthetics
|
 
9
Performance
|
 
7.5
Features
|
 
8
Price Values
|
 
6
โดยรุ่นแรกที่ผมจะนำมาเสนอกันในวันนี้ ได้แก่ HP Envy 13 Notebook สุดหรู จากค่าย HP ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า ค่อนข้าง Exclusive จริงๆ เพราะเป็นที่เดียวและที่แรก ที่ได้รับโอกาสให้สัมผัสเครื่องจาก HP ตัวนี้ หลายๆคนคงจะสนใจกันไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะครับ ว่าแล้วเราก็ไปชมรายละเอียดของตัวเครื่องกันก่อนเลยดีกว่า

เห็น Spec แบบนี้แล้ว หลายๆท่านอาจจะอ้าปากค้างไปตามๆกัน จากรายละเอียดในบรรทัดสุดท้าย และยิ่งเมื่อนำเอาราคาไปเปรียบเทียบกับ Spec ที่ได้แล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ และก่อนที่จะเข้าใจกันไปผิดๆมากกว่านี้ ผมขออธิบายว่า Envy จาก HP เครื่องนี้ ไม่ได้ดูกันที่ Spec เพียงอย่างเดียวครับ เพราะราคาที่ว่านี้คิดรวมจากคุณภาพของตัวเครื่อง ทั้งภายในและภายนอก เนื่องจากว่า รุ่น Envy นี้ ถือว่าเป็น Sub Brand ภายใต้ Brand แม่ของ HP ที่เน้นไปในด้านของความหรูหราและมีคุณภาพ ทำให้วัสดุที่ถูกนำมาผลิตนั้น แทบจะหาไม่ได้ง่ายๆจากตลาดของ Notebook ทั่วไป นอกจากเรื่องของจุดเด่นที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น HP Envy นี้ยังมีอีกหลายๆส่วนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ถ้าพร้อมกันแล้วเราไปชมกันต่อเลยครับ

 

ภายนอกมาในสไตล์หรูหราแบบเรียบง่าย โดยใช้วัสดุอย่าง อะลูมิเนียม และแมกนีเซียม จึงทำให้นอกจากจะดูสวยงามแล้วยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษอีกด้วย สำหรับโทนสีของตัวเครื่องนั้นจะเน้นไปที่สี Bronze ทั้งภายในและภายนอก แต่ในส่วนของใต้เครื่องนั้นจะใช้สีดำเป็นสีหลักแทนครับ สำหรับรายละเอียดของส่วนต่างๆมีดังนี้ครับ

บริเวณฝาพับนั้น มาในแบบเรียบๆ โดยการสร้างความโค้งมนในส่วนของขอบรอบๆและมีเพียงตราของ HP ที่เป็นโลหะสีเงินติดตั้งอยู่บริเวณมุมขวาล่างเท่านั้น นอกจากนี้ในบริเวณขอบด้านบนของฝาพับก็จะมีการเล่นสีของขอบในส่วนกึ่งกลางให้ดูโดดเด่นอีกด้วย

 

ในส่วนของขอบ Panel นั้นจะมีการใช้สีที่แตกต่างออกไปจากสีหลักเล็กน้อย โดยจะมาในโทนสีเงินซึ่งจัดว่าอยู่ในประเภทสีจำพวกโลหะเช่นเดียวกัน จึงทำให้ดูสวยงามไปอย่างกลมกลืนครับ

บริเวณด้านหน้านั้น จะมีเพียงช่องของลำโพงติดตั้งอยู่ที่มุมซ้ายแล้วขวาเท่านั้น

บริเวณด้านซ้าย ประกอบไปด้วย ช่องระบายอากาศ, ช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟจาก Adaptor และไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อ และช่องสุดท้ายได้แก่ Card Reader

บริเวณด้านขวาประกอบไปด้วย ช่องระบายอากาศ ทำให้เมื่อนับรวมทั้งหมดแล้ว HP Envy เครื่องนี้มีช่องระบายอากาศถึง 2 ช่องด้วยกัน และมีขนาดใหญ่ทั้งคู่ งานนี้ปัญหาเรื่องความร้อนที่เคยหนักอกผู้ใช้ HP คงจะหายเป็นปลิดทิ้งครับ ต่อจากนั้นจะเป็นช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ HDMI, USB จำนวน 2 ช่อง ที่ถือว่าน้อยพอสมควร สำหรับการใช้งานในปัจจุบันนี้ที่ไม่ว่าอะไรๆก็เชื่อมต่อผ่าน USB ทั้งหมด ถัดมาเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่อ Headphone และ Microphone แบบ combo ทำให้การใช้งานด้วยอุปกรณ์แบบทั่วๆไป ต้องเลือกใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ถัดจากนั้นจะเป็นไฟแสดงสถานะการทำงานของ Hard Drive และส่วนสุดท้ายได้แก่ ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington ครับ

 

บริเวณใต้เครื่องมาในโทนสีดำ มีเพียง Battery ติดตั้งอยู่ ส่วนช่องสีทองที่เห็นอยู่ในภาพนั้น จะเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่อ Battery เสริมที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆมาติดตั้งเพิ่มเติมครับ

 

ความหนาเมื่อมองจากด้านข้าง ซึ่ง HP Envy 13 เครื่องถือว่ามีขนาดที่ค่อนข้างบางเลยทีเดียว

 

ภายในจะเป็นการเล่นโทนสีแบบลักษณะทูโทน คือมีการใช้สีดำในหลายๆส่วนของพื้นที่ ได้แก่ บริเวณขอบจอและตัวคีย์บอร์ด ทำให้ในส่วนของหน้าจอที่มีสีดำอยู่แล้วนั้น กลายเป็นสีดำทั้ง 100% และเมื่อรวมเข้ากับตัวคีย์บอร์ดแล้วทำให้สีดำที่อยู่ภายในนี้ กินพื้นที่ไปเกินครึ่งนึง ในส่วนของโทนสีที่เหลือนั้น จะเป็นโทนสี Bronze ซึ่งเป็นโทนสีหลักของตัวเครื่อง สำหรับการออกแบบนั้น ตัวคีย์บอร์ดจะมาในสไตล์ Chicklet ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบัน โดยมีลักษณะยกตัวขึ้นมาจากฐานทั้งปุ่ม ทำให้ดูสวยสะดุดตา ในส่วนของพื้นที่บริเวณด้านล่างของตัวคีย์บอร์ดนั้นจะมีการเล่นลวดลายแบบสลักลึกลงไปในผิววัสดุ ดูสวยแปลกตา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังเรื่องของความสะอาดเนื่องจาก พื้นผิวแบบนี้มักจะเกิดคราบสกปรกสะสมได้ง่ายและยากต่อการทำความสะอาดนั่นเองครับ เกริ่นนำกันมาพอสมควรแล้ว ผมว่าเราไปชมอุปกรณ์ต่างๆภายในกันเลยดีกว่าครับ

 

ส่วนแรกเราจะเริ่มกันด้วยหน้าจอที่มีขนาด 13.1” และมีความละเอียดสูงสุดที่สามารถใช้งานได้อยู่ที่ 1,366 x 768 pixels ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่หน้าจอแบบ Full HD แต่ด้วยสีสันของหน้าจอที่สดใสที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้งาน Ntebook ทั้งหมดมา ก็สามารถทำให้ภาพที่แสดงออกมานั้น คมชัดและสวยงามไม่แพ้จอ Full HD เลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อรับชมไฟล์ภาพถ่ายดิจิตอล หรือภาพยนตร์แบบความละเอียดสูงต่างๆ ในส่วนของรูปร่างหน้าตานั้น HP Envy นี้จะเป็นจอชนิดกระจก ที่ให้สีสันของภาพสดใส แต่จะมีข้อเสียในเรื่องของแสงสะท้อน ทำให้ประสิทธิภาพของการมองเห็นลดลงไปเมื่อใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างมากๆหรือมีแสงที่ส่องเข้ามาจากด้านหลัง ในส่วนบริเวณกึ่งกลางของขอบจอด้านบนนั้น จะเป็นที่ติดตั้งของ Webcam ที่มีความคมชัดค่อนข้างสูงแม้จะใช้งานในที่มืดก็ตาม และบริเวณด้านข้างของ Webcam ทั้งซ้ายและขวาจะเป็นที่ติดตั้งของ Microphone ที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดครับ

ในส่วนบริเวณของตัวเครื่องนั้นจะมีอุปกรณ์หลักๆอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ คีย์บอร์ด และตัว Tocuhpad ซึ่งมาในโทนสีดำด้วยกันทั้งคู่ ในส่วนของตัวคีย์บอร์ดนั้นมีดีไซน์ที่สวยสะดุดตาแบบ Chiclet และนอกจากจะสวยแล้วก็ยังสามารถพิมพ์ได้อย่างแม่นยำและคล่องแคล่ว เนื่องจากขนาดของปุ่มนี้ถือว่าใหญ่ถนัดมือเลยทีเดียว สำหรับสิ่งที่ถือว่าค่อนข้างแปลกตาของคีย์บอร์ดจาก HP Envy นี้ นั่นก็คือเรื่องของการใช้งาน Fn หรือ ฟังก์ชั่นคีย์ต่างๆที่ใช้ในการควรคุมตัว Hardware ต่างๆของเครื่อง ทั้งเสียงและความสว่างของจอ เนื่องจากสามารถกดลงไปที่ปุ่ม F1-F12 ได้เลยตรง โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Fn ควบคู่ไปเหมือน Notebook ทั่วๆไป ทำให้เรื่องของความคล้ายที่ไปเหมือนกับ Macbook จากทาง Apple นั้นมีมากขึ้นไปอีก เช่นเดียวกันกับตัวของ Touchpad ที่เหมือนกันอย่างมากอีก 1 จุดในเรื่องของดีไซน์ แต่การใช้งานนั้น จะแตกต่างในเรื่องของการคลิกที่จำเป็นจะต้องลงมากดที่บริเวณด้านล่างเท่านั้น ทำให้การควบคุมเกิดความผิดพลาดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะบริเวณปุ่มคลิกนั้น ก็มี Sensor สำหรับควบคุมการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่า Touchpad จาก HP Envy นี้ จะไม่มีข้อดีเลยนะครับ เพราะในเรื่องของ Multi Touch นั้น ทำได้อย่างแม่นยำและ Smooth ที่สุดในบรรดา Notebook ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ ที่สำคัญทำได้ไม่น้อยหน้าต้นฉบับอย่าง Macbook เลยล่ะครับ

ในส่วนของบานพับนั้นใช้วัสดุแบบเดียวกันกับตัวเครื่อง ทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความแข็งแรง แม้จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่ก็ตาม จะการทดสอบใช้งานทั่วไปนั้นพบว่า มีความมั่นคงที่อยู่ในระดับสูง ไม่มีอาการสั่นคลอนให้เห็นแม้แต่น้อยเมื่อเกิดการสั่นสะเทือนครับ

 

1. ตรวจสอบรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม CPU-Z

จากการตรวจจะ เห็นได้ว่าแม้ตัว CPU นั้นจะดูเหมือนว่าเป็น CPU ในตระกูลประหยัดไฟ แต่ทั้งตัว FSB และ L2 Cache ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าในรุ่น P9xxx เพราะฉะนั้นอย่างพึ่งด่วยสรุปกันครับว่า CPU จะช้าเหมือนกับรุ่น SU9xxx ต่างๆ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญติดตามได้จากการทดสอบขั้นต่อไปครับ สำหรับจุดที่น่าสังเกตอีก 1 จุดนั่นก็คือ ผลรวมของ RAM ทั้งระบบปรากฏอยู่ที่ประมาณ 3 GB แต่เมื่อตรวจสอบการติดตั้ง RAM ทั้ง 2 Slot แล้วจะพบว่า มีการติดตั้ง RAM ขนาด 2 GB เพียง 1 Slot เท่านั้น ดังนั้นการที่เครื่อง HP Envy สามารถรองรับ RAM ได้ถึง 5 GB ด้วยกัน น่าจะมาจาก RAM ที่เป็นลักษณะ On Board 1 GB นั่นเองครับ ส่วนสุดท้ายที่น่าสนใจนั่นก็คือ การที่ HP Envy รุ่นนี้มี GPU หรือการ์ดจอมาให้ใช้งานถึง 2 ตัวด้วยกันครับ แต่จะเป็นลักษณะของ Hybrid หรือสลับการใช้งาน ไม่ได้เป็นการทำงานพร้อมกันแต่อย่างไร ซึ่งจะมีประโยชน์ในแง่ของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้ GPU แบบ On Baord จาก Intel ใน Battery Mode นั่นเองครับ

 

2.ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยโปรแกรม PC Mark 05

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยการใช้งาน GPU จาก Intel

 

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยการใช้งาน GPU จาก ATi

 

คะแนนจากการ ทดสอบที่ออกมานั้น แม้ว่าคะแนนโดยรวมของระบบจะไม่สูงแบบจี๊ดจ๊าด อันเนื่องมาจากตัว GPU ที่ทำคะแนนได้ไม่ดีนัก แต่เมื่อพิจารณาส่วนประกอบอื่นๆ รวมไปถึงการทดสอบโดยใช้งานจริงในด้านทั่วๆไป รวมไปถึงกราฟิกที่ไม่สูงมากนัก HP Envy 13 เครื่องนี้ ก็มีประสิทธิภาพที่สามารถตอบสนองได้อย่างเพียงพอครับ

 

3. ทดสอบประสิทธิภาพของกราฟิกด้วย 3D Mark 06

ผลการทดสอบประสิทธิภาพทางด้านกราฟิก

 

สำหรับผลที่ ออกมานั้น คงบอกได้อย่างชัดเจนว่าจุดเด่นของเครื่องนี้จริงๆไม่ได้เน้นไปที่ด้านกราฟิก แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากนำเอาไปใช้งานประเภทเบาๆ หรือกราฟิกที่มีความละเอียดไม่สูงมากนัก HP เครื่องนี้ก็สามารถตอบสนองได้อย่างสบายๆครับ

หมายเหตุ: ผมทำการทดสอบโดยใช้ GPU จากทาง ATi เท่านั้น อันเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แท้จริงของ GPU แต่ละตัว ซึ่ง GPU จาก Intel นั้น ถูกติดตั้งมาเพื่อให้ประหยัดพลังงานเป็นหลักนั่นเองครับ

 

4. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CPU Free Benchmark

 

ผลที่ออกมาถือว่าทำได้ดีพอสมควร แม้จะประหยัดพลังงาน แต่ก็ไม่ได้ช้าอย่างที่คิดครับ


5. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย Super PI

 

ทำได้ช้า กว่ารุ่น P9xxx เพียง 3 วินาทีเท่านั้นครับ และสามารถทำเวลาออกมาได้สูสีกับรุ่น P8xxx เลยทีเดียว ที่สำคัญกินไฟน้่อยกว่าทั้ง 2 รุ่นถึง 8 watt ด้วยกันครับ


6. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune

 

ผลจากการอ่านข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลบน Hard Drive ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานครับ


7.ทดสอบประสิทธิภาพของ Wireless LAN ด้วย Wireless Mon

 

ผลออกมาได้ 100 คะแนนเต็มครับ ใครที่เคยกังวลกับเรื่อง Wireless ของ HP เห็นผลอย่างนี้คงสบายใจขึ้นเป็นปลิดทิ้ง ^^


8.ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon



การ ทดสอบจะทำโดยการนำมาใช้งานทั่วๆไป ได้แก่ เล่น internet ผ่าน Wireless LAN, พิมพ์งานในโปรแกรม MS Office, ฟังเพลง, ดูคลิป video ต่างๆ จากเว็บ Youtube ครับ ทั้งหมดนี้ใช้งานโดยปรับแสงและเสียงไปที่ระดับสูงสุดครับ


9.วัดอุณหภูมิของเครื่องด้วย Hardware Monitor

สำหรับ อุณหภูมิของตัวเครื่องนั้นจัดได้ว่าอยู่ในขั้นเย็นเลยทีเดียวละครับ แม้จะมีการทำงานของ CPU อย่างหนักต่อเนื่อง ถึง 4 ชั่วโมงก็ตาม นอกจากนี้จากการใช้งานจริงๆแล้ว แม้ว่าตัวเครื่องจะมีวัสดุหลักๆเป็นโลหะ แต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกร้อนมือแต่อย่างไร เมื่อต้องใช้งานภายใต้สภาวะ Full Load ครับ

 

สำหรับ HP Envy นี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะครับว่า มีความละม้ายคล้ายคลึงกับทาง Macbook ของ Apple เป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของรูปร่างหน้าตา รวมไปถึงทำงานของอุปกรณ์บางชิ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ Envy 13 จาก HP เครื่องนี้ลดความน่าสนใจลงไปแต่อย่างไร เพราะในเรื่องของงานดีไซน์ทั้งตัววัสดุและสีสันนั้น ก็สามารถขับออกมาให้ HP Envy 13 ดูหรูหราเหมาะสำหรับคนวัยทำงานที่มีสไตล์ ในส่วนของประสิทธิภาพนั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่า SL9600 นี้เป็นเพียง CPU ในตระกูลประหยัดพลังงานธรรมดาๆอย่าง SU9x00 ทั้งหลาย ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า Core 2 Duo โดยทั่วๆไป แต่ความจริงแล้ว SL9600 นี้ มีประสิทธิภาพที่เทียบเคียงได้กับ P9x00 เลยทีเดียว แตกต่างกันเพียงในเรื่องของสัญญาณนาฬิกาเท่านั้นที่จะขยับลงมาวิ่งต่ำกว่า จึงทำให้กินไฟน้อยกว่าถึง 8 watt ด้วยกัน เมื่อรวมๆเข้ากับตัวการ์ดจอและ RAM ขนาด 3 GB แล้ว ( 2 GB 1 slot และ 1 GB แบบออนบอร์ด) จึงทำให้การใช้งานทั่วๆไป รวมไปถึงกราฟิกที่ไม่สูงมากนัก เป็นไปอย่างราบลื่นไม่แพ้เครื่องแรงๆเลยทีเดียว ดีไซน์ออกมาได้ครบครันทั้ง Function และ Fasion ขนาดนี้ สำหรับใครที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณแล้วล่ะก็ ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าไม่น้อยเลยล่ะครับ

 

จุดเด่น

  • ดีไซน์สวยงาม
  • ฟังก์ชั่น Multi-Touch ของ Touchpad ทำได้อย่างเนียนลื่น
  • สีสันหน้าจอสดใส และสามารถแสดงผลออกมาได้สวยงามที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้
  • GPU แบบ Hybrid ช่วยในการประหยัดพลังงาน
  • ระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพสูง

ข้อสังเกต

  • Battery ขนาด 4 cells ไม่สามารถใช้งานได้ยาวนานนัก
  • ใช้เวลาในการชาร์จ Battery จนเต็มนานกว่าระยะเวลาที่สามารถใช้งาน Battery ได้
  • USB มีจำนวนเพียง 2 ช่อง
  • ไฟแสดงสถานะของ Hard Disk อยู่ในจุดที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างสะดวก

 

Design 9
Performance 7.5
Feature 8
Value 6
Overall 7.6
Specification  
Technical Spec
CPU
Intel® Core™ 2 Duo Processor SL9600 (2.13 GHz, 6MB L2, 1066MHz FSB)
Chipset
Mobile Intel® GS45 Express Chipset
Memory
3 GB DDR3
Harddisk
250 GB SATA
 
Graphic & Display
Graphic
ATI Mobility Radeon™ HD 4330 Graphics
Display
13.1" HD (1366 x 768)
 
Software
Operating System
Windows 7 Home Premium (64-bit)
 
I/O Interface
HDMI
Yes
Firewire
-
VGA Out
-
PCI Express
-
E-SATA
-
Fingerprint
-
USB
2
Card Reader
2-in-1
 
Communication
Wireless Lan
Intel® Wireless WiFi Link 5100
Lan
Yes
Modem
-
Web Cam
HP Webcam VGA low-light
 
Feature
-
 
Battery
4 Cells Li-Ion
 
Weight
1.7 kg.
 
Warranty
1 Year International
 
Price
89,900 บาท
Comments Top

world vision