หลายๆคนคงจะไปสะดุดตากับในส่วนของ CPU ที่เป็น Intel Atom ในรุ่น Z530 ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการประหยัดพลังงานว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน เพราะนอกจากชื่อเสียงในเรื่องของการประหยัดพลังงานแล้ว ความเชื่องช้าก็ได้รับการกล่าวขานไม่แพ้กัน ถัดมาอีกส่วนที่น่าสังเกตไม่แพ้กันก็คือในเรื่อง Battery ขนาด 2 Cells นี้ครับ ว่าเมื่อรวมเข้ากับ CPU อย่าง Z Series แล้วจะใช้งานได้นานแค่ไหน
ภายนอกมาในสไตล์ Glossy เหมือนเครื่องทั่วๆไปในสมัยนี้ แต่สี Glossy ของ UH900 เครื่องนี้นั้น จะออกไปทางแนว Metallic ทำให้วัสดุที่นำมาประกอบเป็นตัวเครื่องนั้น ดูเหมือนเป็นโลหะด้วยเช่นกัน จึงสร้างความหรูหรา ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกว่าแข็งแรงทนทาน และยิ่งเมื่อรวมเข้ากับการตัดด้วยเส้นโลหะสิเงินแล้ว ตัวเครื่องก็ยิ่งดูสวยหรู สะดุดตามากยิ่งขึ้น
บริเวณฝาพับนั้น จะมาในแบบเรียบๆที่มีความมันวาวแบบ Glossy ซึ่งในบริเวณนี้จะมีเพียง Logo จาก Fujitsu ปรากฎอยู่บริเวณกึ่งกลางขอบด้านบนเท่านั้น จึงทำให้ในส่วนนี้ดูสวยเรียบ แต่ก็ดูสะดุดตาไม่น้อย ยิ่งโดยเฉพาะกับตัวเครื่องสีแดงที่เราได้มาทดสอบนี้ครับ
ในส่วนของบริเวณ Panel ด้านหลังนั้น จะมีเพียง ช่องเชื่อมระบายอากาศขนาดใหญ่ที่สุดของตัวเครื่อง ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับพัดลมระบายอากาศ อยู่ตรงกึ่งกลางของ Panel ด้านนี้ครับ
ในส่วนของบริเวณ Panel ด้านซ้ายนั้น ประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington, ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนหูฟัง และช่องสุดท้ายบริเวณใกล้ๆกึ่งกลางของ Panel จะเป็นช่องระบายอากาศครับ
บริเวณด้านหน้าจะประกอบไปด้วย USB จำนวน 1 ช่อง, ลำโพง, ช่องสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมจากทาง Fujitsu, USB จำนวน 1 ช่อง ซึ่งเมื่อรวมแล้วจะมี USB ให้ใช้งานทั้งหมด 2 ช่อง อาจจะดูน้อยไปซักหน่อย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับขนาดของตัวเครื่อง รวมไปถึงลักษณะการใช้งานแล้ว ก็ถือว่าน่าจะเพียงพอครับ และสำหรับช่องสุดท้ายนั้นได้แก่ Card Reader ที่รองรับเพียงมาตรฐาน SD เท่านั้น หากใครต้องการใช้มาตรฐานอื่นๆ ก็คงต้องลองหา Adaptor แปลง หรือ Card Reader แบบต่อภายนอกมาใช้งานแทนครับ
สุดท้ายบริเวณ Panel ฝั่งขวาจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟจาก Adaptor , ช่องระบายอากาศ และ Switch สำหรับเปิดปิดตัวรับสัญญาณ Wireless LAN ครับ
บริเวณใต้เครื่องนั้นจะมีลักษณะเช่นเดียวกันกับด้านบน คือมาใน Glossy Style เหมือนกัน สำหรับในบริเวณนี้นั้น ส่วนที่เป็นฝาหลังจะเป็น Battery ขนาด 2 Cells ซึ่งมีขนาดที่บางมาก และเมื่อถอดออกจากตัวเครื่องแล้ว จึงจะเห็นอุปกรณ์ภายในต่างๆ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือส่วนที่เป็นที่โล่งจะมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดเพื่อเอาไว้ใช้เชื่อมต่อระบบ Internet และพัดลมระบายอากาศเท่านั้น ถัดมาอีกส่วนคือส่วนที่มีพลาสติกสีดำปิดเอาไว้ จะเป็นส่วนของอุปกรณ์ Mini PCI-e ทั้งหลาย เช่น ตัวรับสัญญาณ Wireless LAN เป็นต้นครับ
ความหนาของตัวเครื่องเมื่อมองจากด้านข้างอาจจะดูหนาไปซักหน่อย สำหรับในส่วนของหน้าจอ แต่ถ้าเทียบกับความสามารถในด้านการสัมผัสแล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะหนาครับ
ขนาดของที่ชาร์จเมื่อเทียบกับตัวเครื่อง
ภายในนั้นเรียกว่าพลิกแนวไปคนละแบบกับภาพนอกเลยล่ะครับ เพราะว่าจะมาในโทนสีดำ ซึ่งตัดกันอย่างชัดเจนกับภายนอก แต่สำหรับในเรื่องตัววัสดุนั้น ก็จะยังคงเป็นแบบ Glossy เหมือนภายนอกครับ จึงทำให้มีปัญหาในเรื่องการเป็นคราบสกปรกได้ง่าย และยิ่งโดยเฉพาะกับในส่วนของภายในนี้ที่ได้รับการสัมผัสมากกว่าบริเวณอื่นๆ จึงทำให้ผู้ใช้ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆเพื่อความสวยงามของตัวเครื่องครับ
สำหรับจุดแรกนั้น เราจะมาดูกันที่หน้าจอขนาด 5.6” กันก่อนเป็นอันดับแรกครับ โดยสำหรับหน้าจอของ Fujitsu ตัวนี้นั้น นอกจากจะมีไว้ใช้งานตามปกติแล้ว ยังสามารถที่จะสัมผัสแบบ Multi-Touch ได้อีกด้วยครับ ทำให้ตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กแบบนี้ สามารถที่จะใช้งานได้ง่ายขึ้น และหากใครที่กลัวว่าหน้าจอมีขนาดที่เล็กเกินไป ไม่เหมาะสำหรับการใช้มือกดลงไปตรงๆนั้น ก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะ Fujitsu รุ่นนี้ เค้าแถม Stylus มาด้วย ทีนี้จะจิ้มตรงไหนยังไง ก็ทำได้อย่างง่ายดายครับ สำหรับในเรื่องของการแสดงผลนั้น แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วจะเป็นจอที่มีลักษณะคล้ายกับจอกระจกทั่วไป แต่เมื่อนำเอาไปใช้งานจริงๆ ตามที่ที่มีแสงสว่างเยอะๆนั้น กลับพบว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของแสงสะท้อนที่มักจะพบกับเครื่องประเภทแบบนี้เลยล่ะครับ อีกทั้งสีสันของหน้าจอที่แสดงออกมานั้น ก็ยังสามารถทำได้สดสวยอีกด้วย และสุดท้ายใครที่กลัวว่าหน้าจอเล็กแล้วจะเกิดปัญหาการแสดงผลบูดๆเบี้ยวๆ เนื่องมาจากความละเอียดจะต่ำตาม ก็ยิ่งไม่ต้องห่วงเข้าไปใหญ่ครับ เพราะว่า UH900 รุ่นนี้ ความละเอียดของจอสูงยิ่งกว่า Netbook ซะอีก เพราะขนมาให้ใช้ถึงระดับ WXGA 1280x800 เลยทีเดียว สำหรับในส่วนของรอบๆจอนั้น จะมีปุ่มสำหรับการสั่งงานผ่านระบบสัมผัสต่างๆ โดยฝั่งซ้ายนั้นจะประกอบไปปุ่มสำหรับการซูม, ปุ่มสำหรับโหมด Eco เพื่อใช้ในการปรับเป้นโหมดประหยัดพลังงาน และสุดท้ายได้แก่ปุ่มที่ สามารถตั้งได้เองว่าจะใช้ทำอะไร สำหรับทางด้านฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นปุ่มสำหรับการเลื่อนหน้าต่างขึ้นลง (Scroll) จำนวน 2 ปุ่มครับ และสิ้งที่สุดท้ายที่อยู่บริเวณรอบๆจอนั้นก็จะได้แก่ กล้องเว็บแคมความละเอียด 0.78 MP ครับ ซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณข้างๆเหนือปุ่ม Scroll ขึ้นไป โดยจากการทดลองใช้งานจริงแล้วนั้น พบว่าตำแหน่งของกล้องนั้น ทำให้ไม่สามารถเห็นตำแหน่งของใบหน้าได้อย่างเต็มที่นัก ผิดกับกล้องที่ถูกจัดวางไว้บริเวณกึ่งกลางของขอบจอครับ ใครที่ใช้งานความสามารถตรงส่วนนี้เป็นหลัก ก็คงจะต้องปรับตัวกันซักหน่อยกว่าจะเริ่มชินครับ
ตัวคีย์บอร์ดนั้นคงจะต้องบอกว่ามีขนาดที่ใหญ่มากแล้วล่ะครับ เมื่อเทียบกับขนาดของตัวเครื่อง แต่สำหรับเครื่องรุ่นนี้นั้น เมื่อมาถึงตรงจุดนี้ก็คงต้องบอกว่าไม่ค่อยเหมาะกับผู้ชายซักเท่าไหร่ เพราะปุ่มมีขนาดที่เล็กมาก และโดยปกติแล้วผู้ชายมักจะมีนิ้วที่ใหญ่ เลยทำให้การพิมพ์นั้นเป็นไปอย่างไม่แม่นยำ มีของแถมติดมาด้วยเสมอ (กด 1 ปุ่มได้ 2 ปุ่ม) แต่หากจะมองว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการเล่นอินเตอร์เน็ทเฉยๆ ตรงจุดนี้ก็พอที่จะถูไถไปได้ครับ สำหรับเครื่องรุ่นนี้จากทาง Fujitsu นั้น เป็นเครื่องรุ่นแรก และน่าจะเป็นเครื่องเพียงรุ่นเดียวที่มีการวาง Layout ของปุ่ม Delete ไว้ในตำแหน่งริมสุด (ซะที) ทำให้ตัวผมสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง จะมีเพียงก็แต่การขยับเอาปุ่มบางปุ่มไปซ้อนไว้กับปุ่มอื่น เนื่องจากความจำกัดของพื้นที่ เช่น ปุ่ม F7 - F12 ที่ซ้อนอยู่กับปุ่ม F1-F6 และปุ่ม Pause/Break ที่ถูกนำไปซ้อมอยู่กับปุ่ม N ครับ ใครที่ต้องการจะใช้ปุ่มเหล่านี้ ก็คงต้องมองหากันซักหน่อยในช่วงแรกๆ
สำหรับในส่วนของ Mouse นั้น Fujitsu รุ่นนี้จะไม่มี Touchpad มาให้ใช้ เนื่องด้วยเรื่องของขนาดที่จำกัด แต่อุปกรณ์ที่ใส่มาจะเป็น Trackpoint แทน ซึ่งส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของ Cursor นั้นจะอยู่ที่บริเวณมุมขวาบน ในขณะที่ปุ่มสำหรับการคลิกนั้นจะอยู่ที่มุมซ้ายบนครับ ซึ่งเมื่อเทียบกับรูปร่างแล้ว การทำงานก็ถือว่าสัมพันธ์กันดี ในขณะที่หน้าจอก็สามารถที่จะสัมผัสได้ ฉะนั้นการขาดหายไปของ Touchpad จึงไม่สร้างผลกระทบมากนัก แต่ต้องอาศัยการปรับตัวนิดหน่อยครับ
บานพับนั้นจะมีสีและวัสดุประเภทเดียวกับในส่วนของตัวเครื่องด้านในจึงทำให้ดูกลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งแม้ว่าจะมีขนาดที่เล็กและดูบอบบาง แต่จากการใช้งานจริงแล้วพบว่ามีความแข็งแรงที่อยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว เพราะการใช้งานในทุกๆสภาวะนั้น เป็นไปอย่างแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในที่ที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือใช้งานในขณะที่มีการเคลื่อนไหว
ส่วนสุดท้ายไฟแสดงสถานะต่างๆของตัวเครื่องจะอยู่ในบริเวณด้านล่างสุดของคีย์บอร์ดครับ
1. ตรวจสอบรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม CPU-Z
จากรายละเอียดที่แสดงอยู่ในโปรแกรม CPU-Z นั้น ถือว่าตรงตามกับ Spec ของตัวเครื่องทุกอย่าง จะมีก็เพียงแต่ในเรื่องของ RAM ที่ไม่สามรถแสดงรายละเอียดตาม Slot ต่างๆได้ เนื่องมาจากว่า เครื่อง Fujitsu UH900 เครื่องนี้นั้น เป็น RAM ที่ถูกติดตั้งมาอยู่บนบอร์ดเรียบร้อยแล้วครับ
2.ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยโปรแกรม PC Mark 05
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ
สำหรับคะแนนของตัวเครื่องนั้น หลายๆคนก็คงจะรู้ดีตั้งแต่ก่อนเริ่มเทสแล้วล่ะครับ ว่าน่าจะได้คะแนนอยู่ที่เท่าไหร่ เนื่องมาจากว่า Spec โดยรวมของระบบนั้น เน้นหนักไปในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ดังนั้นประสิทธิภาพที่ได้จึงออกมาสวนทางกันนั่นเอง
3. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CPU Free Benchmark
ถือว่าเป็น CPU ที่ทำคะแนนออกมาได้อยู่ในระดับต่ำที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา แต่ก็มีคะแนนที่สูงกว่า Z Series ในรุ่นรหัสที่ต่ำกว่านี้ครับ ใครที่คิดไว้ว่าจะเอาเครื่องนี้ไปท่องเน็ท ใช้งานเบาๆเพียงอย่างเดียว เห็นตะแนนนี้ก็คงไม่ต้องไปซีเรียสเท่าไหร่ครับ
4. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย Super PI
ผลที่ออกมาหากนำเอาไปเทียบกับ CPU แบบปกติ ก็คงต้องตกใจกันนิดหน่อยล่ะครับ เพราะ CPU แบบปกตินั้นจะใช้เวลาไม่เกิน 50 วินาที แต่ Z530 ตัวนี้ คำนวณค่า PI โดยใช้เวลาไปถึง 2 นาทีนิดๆเลยทีเดียว
5. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune
ผลจากการอ่านข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลบน Hard Drive ถือว่าทำได้ดีที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมาครับ เพราะเป็น Hard Drive แบบ SSD จึงมีประสิทธิภาพที่สูงนั่นเอง
6.ทดสอบประสิทธิภาพของ Wireless LAN ด้วย Wireless Mon
แม้จะทำได้ไม่เต็ม 100% คือ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ระดับ 95% ประกอบกับการจับสัญญาณก็ยังไม่นิ่งเท่าที่ควร แต่จากการทดสอบใช้งานทั่วไปนั้น พบว่าสามาใช้งานได้ดีเลยล่ะครับ
7.ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon
การ ทดสอบจะทำโดยการนำมาใช้งานทั่วๆไป ได้แก่ เล่น internet ผ่าน Wireless LAN, พิมพ์งานในโปรแกรม MS Office, ฟังเพลง, ดูคลิป video ต่างๆ จากเว็บ Youtube ครับ ทั้งหมดนี้ใช้งานโดยปรับแสงและเสียงไปที่ระดับสูงสุดครับ ผลที่ออกมาถือว่าทำงานได้น่าผิดหวังนิดหน่อยครับ คือสามารถใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น และด้วยความที่ตัวเครื่องถูกออกแบบมาโดยเน้นไปในเรื่องของการพกพา ผมว่าตรงจุดนี้ทาง Fujitsu คงต้องทำการบ้านเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ แต่ทั้งหมดนี้ต้องของออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ใช่ Mode ECO จากทาง Fujitsu นะครับ เพราะโดยส่วนตัวผมไม่ชอบเครื่องที่ทำงานได้ช้า จึงปรับไปเป็น Mode Balance แทน ใครที่คิดว่าสามารถทำงานบน Mode ECO ได้อย่างไม่มีปัญหา เรื่องของระยะเวลาก็จะสามรถทำงานได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้นครับ ส่วนของเวลาในการชาร์จนั้น ผมมองว่าใช้เวลานานไปซักหน่อยสำหรับ Battery ขนาด 2 Cells นี้
8.วัดอุณหภูมิของเครื่องด้วย Hardware Monitor
อุณหภูมิของตัวเครื่องนั้นถือว่าทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม อันเนื่องมาจากอานิสงฆ์ของตัว CPU แบบประหยัดพลังงาน และด้วยอุณหภูมิขนาดนี้ คุณก็สามารถที่จะทำงานได้อย่างสบายๆ แม้ในสภาพ Full Load ครับ
9.ระบบเสียง
นับเป็นจุดที่สามารถสร้างความ Surprise ให้ผมได้อย่างมากเลยทีเดียวครับ เพราะว่าตัวเครื่องนั้นมีขนาดที่เล็กมาก จึงส่งผลให้ถูกติดตั้งลำโพงอยู่เพียงจุดเดียวและตัวเดียว แต่ความดังของเสียงที่ได้นั้น พบว่าดังกว่า Netbook บางตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าซะอีกครับ
Fujitsu UH900 เครื่องนี้นั้น ถ้าจะให้นิยามกันอย่างไม่อ้อมค้อม ก็คงจะต้องเป็นเครื่องพกพาสำหรับการใช้งานทางด้าน Internet เป็นหลักครับ ทั้งเรื่องของการท่องเว็บ แชท และอาจจะใช้ทำงานเล็กๆน้อยครับ เนื่องมาจากว่าขนาดของตัวเครื่องนั้น เล็กเกินไปที่จะสามารถใช้งานได้อย่างปกติ ประกอบกับประสิทธิภาพของตัวเครื่องก็ถือว่าค่อนข้างต่ำไปซักหน่อย เพราะฉะนั้นการทำงานบางอย่างจึงทำออกมาได้อย่างช้ามาก แต่ก็ใช่ว่า UH900 เครื่องนี้จะมีแต่ข้อเสียนะครับ เพราะว่าในข้อเสียก็ยังมีข้อดีปะปนอยู่ด้วย เช่น ในเรื่องของการพกพาที่ทำได้อย่างสะดวกสะบายกว่าการพกพา Netbook และข้อดีในเรื่องของหน้าจอสัมผัส ก็ยังช่วยให้การท่องเว็บเป็นไปอย่างสะดวกสบายไม่แพ้เครื่องใหญ่ๆเลยทีเดียว นอกจากนี้ความสามารถในการที่มีโมเด็มภายในตัว ทำให้เพียงแค่ใส่ซิมการ์ดลงไปก็สามารถที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทได้ทุกที่ทุกเวลา และยังสามารถรองรับ 3G ในอนาคตได้อีกด้วย เอาเป็นว่าใครที่มี Life Style ตรงตามที่ว่ามานี้ Fujitsu เครื่องนี้ ก็ถือเป็นอุปกรณ์เท่ห์ๆอีกเครื่อง ที่ควรจะต้องไปทดสอบดูครับ
จุดเด่น
ข้อสังเกต
Design | 8.5 |
Performance | 6.5 |
Feature | 7 |
Value | 6 |
Overall | 7.0 |