Fujitsu T4310 ครบเครื่องเรื่องขีดเขียน
สวัสดีครับวันนี้คอลัมน์ Review ของเราก็มี Notebook ที่น่าสนใจมานำเสนอกันอีกเช่นเคย โดย Notebook ที่จะมารับบทเด่นของเรานั้นได้แก่ Fujitsu T4310 ซึ่งเป็น Tablet รุ่นล่าสุดที่มีจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอระบบสัมผัสที่ไม่ธรรมดา เพราะปกติแล้ว Tablet นั้นมักจะต้องใช้งานควบคู่กันกับปากกา Stylus เท่านั้น จึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับ Fujitsu T4310 เครื่องนี้ คุณสามารถที่จะใช้นิ้วสัมผัสลงไปที่หน้าจอได้อย่างตรงๆ เหมือนโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสทั้งหลายในยุคนี้ ที่สำคัญยังสามารถรองรับระบบ Multi Touch ได้อีกด้วย ทำให้การใช้งานนั้น เป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการย่อ-ขยายรูป หรือว่าจะเป็นการหมุนภาพ ทั้งหมดนี้ คุณสามารถวาดนิ้วลงไปได้ตรงๆยังส่วนของจอภาพเลยครับ
สำหรับใครที่ชักจะสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว ผมว่าเราไปชม Review ตัวนี้ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ โดยเริ่มกันที่ส่วนแรกของเรานั่นก็คือ Spec กันเลย
ตัว Spec นั้น แม้จะไม่ได้มาพร้อมกับ CPU Core 2 Duo แบบตระกูล P แต่ด้วยลักษณะการใช้งานหลักของ Notebook แบบ Tablet นี้ จะเน้นไปที่งานด้านเอกสาร หรือการ Present ผลงานซะมากกว่า ทำให้ Spec ที่มาปรากฏดังตารางด้านบนนี้ สามารถใช้งานได้อย่างเหลือเฟือเลยล่ะครับ
สำหรับภายนอกนั้น จะมาในสไตล์ Glossy ที่มีลักษณะมันเงา แต่ลักษณะของเนื้อสีนั้น เมื่อมีแสงมาตกกระทบ จะดูไม่ราบเรียบเท่าเครื่อง Glossy จากค่ายอื่นๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าตรงจุดนี้จะเป็นลูกเล่นที่ทาง Fujitsu ตั้งใจใส่มาหรือไม่ เพราะด้วยลักษณะของสีแบบนี้หากมองผ่านๆ จะทำให้ตัวเครื่องคล้ายทำมาจากโลหะ สรุปแล้วสำหรับภายนอกนี้ดีไซน์ต่างๆ ก็จะยังคงเป็นแบบ Fujitsu ในรุ่นก่อนๆครับ
บริเวณฝาพับนั้น จะยังคงเป็นเหมือนๆกับหลายๆรุ่นของทาง Fujitsu ก่อนหน้านี้ ที่มี ชื่อของ Brand รวมไปถึงคำว่า LifeBook ปรากฏอยู่บริเวณกึ่งกลางด้านบนของฝาพับ ถัดมาบริเวณด้านล่างนั้น ก็จะมีการพิมพ์ Logo ของทาง Fujitsu ลงไปด้วยสีดำด้าน ทำให้ตัดกันกับพื้นผิวแบบมันเงา แต่ด้วยความที่เป็นสีดำเหมือนกัน จึงทำให้ดูกลมกลืนกันไป หากมองไกลๆก็อาจจะสังเกตได้ค่อนข้างลำบากครับ สรุปแล้วผมชอบดีไซน์ของ Logo Fujitsu ในรุ่นใหม่ๆที่เป็นโลหะแบบนูนต่ำมากกว่า เพราะทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรามากกว่าสไตล์นี้ ถัดมาในส่วนของบริเวณด้านใต้ตัวเครื่องนั้น จะใช้วัสดุแบบพลาสติกที่มีเนื้อด้านสีดำ เหมือนใน Notebook ทั่วๆไป ทำให้แยกส่วนออกมาจากตัวเครื่องด้านบนได้อย่างชัดเจน
ในส่วนของบริเวณ Panel ด้านหลังนั้น ประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington, ช่องระบายอากาศ, USB จำนวน 2 ช่อง, ช่องระบายอากาศขนาดเล็ก, ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ HDMI, ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ VGA ที่มีที่ปิด Port แบบบานพับยางคอยป้องกันอยู่, และส่วนสุดท้ายได้แก่ ช่องสำหรับเชื่อมต่อสาย LAN ครับ
ทางด้าน Panel ด้านซ้ายนั้น ประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟจาก Adaptor, USB จำนวน 1 ช่องี่เหลือ ซึ่งเมื่อนับรวมทั้งเครื่องแล้วจะมีทั้งหมด 3 ช่องด้วยกัน ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน ถัดมาจะเป็นช่องระบายอากาศขนาดขนาดใหญ่อีก 1 จุด และช่องสุดท้ายได้แก่ ช่อง Express Card ที่สามารถนำไปใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆได้อย่างสะดวกสบายครับ
บริเวณด้านหน้าประกอบไปด้วย ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนหูฟัง, สัญลักษณ์แสดงหน้าที่ของไฟสถานะ, ช่องเชื่อมต่อสาย FireWire, Switch ปิดเปิดตัวรับสัญญาณ Wireless, Card Reader ที่มีการเขียนมาตรฐานของการ์ดที่รองรับกำกับไว้และส่วนสุดท้ายของ Panel ด้านนี้ได้แก่ ช่องเก็บปากกา Stylus ที่อยู่บริเวณริมสุดของทางด้านขวาฝั่งนี้ครับ
สุดท้ายบริเวณฝั่งขวาจะมีเพียง DVD Drive ที่สามารถถอดออกได้ ถูกติดตั้งเอาไว้เท่านั้น
บริเวณใต้เครื่องอาจจะดูแปลกตาไปซักหน่อยสำหรับช่องติดตั้ง Battery เนื่องจาก Battery ของ Fujitsu เครื่องนี้จะเป็นแบบก้อน 4 เหลี่ยม ไม่ได้เป็นแบบแท่งยาวๆเหมือนกับใน Notebook ทั่วๆไป และอีกส่วนที่น่าสนใจสำหรับทางด้านใต้เครื่องนี้ก็จะได้แก่ ช่องระบายอากาศที่เราสามารถถอดเอาตัว Filter ออกมาทำความสะอาดได้เอง
ในส่วนของภายในนั้น จะมีดีไซน์เช่นเดียวกันกับภายนอก ทั้งเรื่องของความมันเงา และรอยคลื่นของตัวสี ทำให้ในส่วนนี้จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะเป็นบริเวณที่ได้รับการสัมผัสจากมือของเรามากที่สุด จึงทิ้งรอยนิ้วมือ และคราบความมันต่างๆไว้มากกว่าบริเวณฝาพับ ในส่วนของจอภาพนั้น จะเป็นแบบ TFT จึงดูไม่เงาและสะท้อนแสงมากเหมือนจอกระจกที่ใช้งานกันทั่วๆไปใน Notebook ยุคปัจจุบัน ประกอบกับทั้งตัวขอบจอและ Keyboard ต่างก็มาในสไตล์ดพด้าน จึงทำให้ตัดกันเป็นพิเศษสำหรับตัวเครื่องที่มีผิวมัน แต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดเนื่องจากโทนสีนั้นเป็นสีดำทั้งคู่
สำหรับส่วนแรกอย่างหน้าจอของ Fujitsu T4310 นี้ จะเป็นแบบ TFT ซึ่งถือได้ว่าฉีกแนวไปจาก Notebook ในปัจจุบันพอสมควร เนื่องจากหน้าจอในปัจจุบันของแต่ละเครื่องนั้น แทบจะเป็นแบบกระจกไปหมดแล้ว ทำให้ในส่วนนี้หน้าจอจากทาง Fujitsu ได้คะแนนไปจากผมค่อนข้างเยอะ เพราะไม่ว่าจะทำงานในสภาวะไหนก็ไร้ปัญหาจากการรบกวนของแสงสะท้อน แม้ว่าในเรื่องความสดสวยของสีนั้น อาจจะด้อยกว่าจอแบบกระจกไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับ TFT สมัยก่อน หน้าจอของ Fujitsu T4310 เครื่องนี้ ถือว่าพัฒนาขึ้นมาได้เยอะเลยทีเดียว และนอกจากข้อดีที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น หากจะไม่พูดถึงจุดเด่นของหน้าจอแบบสัมผัสเลยก็ดูจะขาดอะไรไปซักหน่อย เพราะ Tablet เครื่องนี้จากทาง Fujitsu นั้นถือได้ว่าเป็น Tablet ตัวแรกที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสแบบ Multi Touch ทำให้สามารถทำงานหลายๆอย่างได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการทดสอบแล้วนั้น พบว่าสามารถตอบสนองได้ดีเลยทีเดียว จะมีแค่บางช่วงเท่านั้นที่ยังออกอาการหน่วงๆ หรือทำงานผิดพลาดไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าทำได้น่าพอใจครับ ในส่วนของบริเวณกรอบจอสำหรับ Fujitsu เครื่องนี้จะถูกติดตั้งไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆมากมาย เริ่มกันด้วยตัวล็อคหน้าจอที่งสามารถสลับตำแหน่งการล็อกได้ว่า จะให้ล็อกโดยการเอาหน้าจอคว่ำลงไปหรือหงายขึ้นมา ซึ่งถูกติดตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางของขอบด้านบน, ถัดลงมานิดหน่อย กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลถูกติดตั้งอยู่บริเวณเยื้องไปด้านขวา, บริเวณขอบจอด้านล่างนั้นจะเป็นที่ที่มีอุปกรณ์ต่างๆติดตั้งอยู่มากมาย ไล่มาตั้งแต่ Finger Print Read บริเวณด้านซ้ายสุด, ไมโครโฟนด้านซ้าย, ลำโพงด้านซ้าย, ลำโพงด้านขวา, ปุ่มในการใช้งานฟังก์ชั่น Tablet ต่างๆ, ไฟแสดงสถานะ, ไมโครโฟนด้านขวา และสุดท้ายได้แก่ ปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ตัว Keyboard จะมาในดีไซน์เก่งของทาง Fujitsu ที่ดูค่อนข้างเชยไปแล้วสำหรับยุคนี้ ทำให้ภายในดูไม่ค่อยสวยเด่นซักเท่าไหร่ อีกทั้งในเรื่องของการจัดวาง Layout Keyboard นั้น ต้องขอติว่าไม่ค่อยเป็นไปตามมาตรฐานซักเท่าไหร่ในหลายๆปุ่ม เช่น ปุ่ม Delete ที่ขยับเข้ามาจากตำแหน่งริมสุด ทำให้คนที่ถนัดใช้งาน Notebook มาเป็นระยะเวลานานอย่างผมค่อนข้างมีปัญหาอย่างมาก ยิ่งในช่วงที่ใช้งานแรกๆ แต่สำหรับคนที่เพิ่งเปลี่ยนจาก PC มาใช้ Notebook ก็คงจะสามารถปรับตัวได้ไม่ยากครับ สำหรับการใช้งานทั่วๆไปนั้น แม้ว่าตัว Keyboard จะเป็นแบบรุ่นเก่า แต่จากการใช้งานแล้วก็พบว่าสามารถพิมพ์ได้คล่องแคล่วและแม่นยำ ไม่มีปัญหาเรื่องพิมพ์ผิดๆถูกๆ แม้จะเพิ่งจับเครื่องได้ไม่นาน แต่ในเรื่องความแข็งของปุ่มนั้น พบว่าค่อนข้างแข็งเกินไปหน่อย ทำให้ต้องออกแรงมากกว่า Notebook ที่ผมใช้อยู่เป็นประจำ
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องขอติอีกซักหน่อย เนื่องจากขนาดของตัว Touchpad ที่ให้มานั้นมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นของไซส์ Netbook เลยก็ว่า ทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งานนั้นกลับทำออกมาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ เพราะไม่มีอาการสะดุด หรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งเลย จะขาดก็เพียงแต่ระยะในการเคลื่อนที่ที่ทำได้น้อยไปหน่อยอันเนื่องมาจาก Touchpad ที่มีขนาดเล็ก สุดท้ายในเรื่องของปุ่มคลิกนั้นสามารถใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาครับ
Sticker ต่างๆบนตัวเครื่อง
บานพับของตัวเครื่องจะเป็นแบบแกนเดียว ที่มีหน้าที่ทั้งหมุนและพับ ถึงแม้จะดูเล็กไปซักหน่อยแต่จากการใช้งานแล้วพบว่าความแข็งแรงมีมากไม่แพ้ Notebook แบบปกติเลยทีเดียว ทั้งนี้ส่วนนึงน่าจะมาจากการที่ตัวเครื่องเลือกใช้งานวัสดุในส่วนนี้เป็นแบบโลหะ จึงทำให้ไม่สั่นคลอนง่ายๆ และมีอายุการใช้งานที่สูงกว่าปกติ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นห่วงในจุดนี้ก็สามารถสบายใจได้เลยครับ
1. ตรวจสอบรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม CPU-Z
จากการตรวจสอบด้วยโปรแกรม CPU-Z แล้ว พบว่าส่วนประกอบต่างๆนั้นถูกต้องตาม Spec ครับ ยกเว้นในส่วนของ CPU ที่มีการโชว์ว่าใช้งานเป็น CPU จาก Intel ในรุ่น Core 2 Duo T6670 ในช่อง Name แต่ในช่องของ Specification กลับโชว์ว่า Intel Core 2 Duo T6600 ซึ่งตรงจุดนี้คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาที่ตัวโปรแกรมซะมากกว่า เพราะในการตรวจสอบด้วยโปรแกม PC Mark 05 ผมที่อ่านได้ก็จะเป็น Intel Core 2 Duo T6600 เช่นเดียวกัน และตรงจุดนี้ไม่ส่งผลใดๆต่อการใช้งานครับ เพราะฉะนั้นสบายใจได้เลย
2.ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยโปรแกรม PC Mark 05
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ
สำหรับคะแนนของตัวเครื่องที่ออกมานั้น ถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลยทีเดียว หากเทียบกับเครื่องในระดับที่ใช้งานทั่วๆไป และยิ่งเมื่อดูถึงการใช้งานของตัวเครื่องประเภท Tablet เป็นหลักแล้วล่ะก็ ต้องขอบอกว่าคะแนนที่ออกมานี้ สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆไปอีกหลายปีเลยล่ะครับ
3. ทดสอบประสิทธิภาพของกราฟิกด้วย 3D Mark 06
ผลการทดสอบประสิทธิภาพทางด้านกราฟิก
ผลที่ออกมาก็คงจะสามารถบอกได้อย่างชัดเจนแล้วล่ะครับว่าไม่เหมาะกับงานทางด้านกราฟิกซักเท่าไหร่นัก แต่หากต้องการที่จะนำไปใช้งานด้านความบันเทิง เช่น ดูหนังความละเอียดสูง หรือ ส่งสัญญาณภาพแบบความละเอียดสูงออกไปทางพอร์ต HDMI ก็คงพอฟัดพอเหวี่ยง ใช้งานได้อย่างไม่หงุดหงิดอารมณ์ครับ
4. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย CPU Free Benchmark
ระดับคะแนนที่ออกมานั้น ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆครับ แต่ถือว่าเร็วกว่า CPU จำพวกตระกูลประหยัดพลังงานทั้งหลายพอสมควร เพราะฉะนั้นใครที่ตัดสินใจไม่เลือกซื้อ Notebook หรับการพกพาเพราะใช้งาน CPU แบบประหยัดพลังงาน ก็ขอให้สบายใจได้ครับ
5. ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ด้วย Super PI
ผลที่คะแนนที่ออกมานั้น ถือว่าทำได้ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว ซึ่งผลที่ออกมานี้สามารถตอกย้ำความเร็วของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี ผู้ที่กำลังลังเลใจก็น่าจะสบายใจได้แล้วนะครับ
6. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune
ผลจากการอ่านข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลบน Hard Drive นั้น ถือว่าทำได้เร็วพอสมควรเลยล่ะครับ
7.ทดสอบประสิทธิภาพของ Wireless LAN ด้วย Wireless Mon
ประสิทธิภาพในการจับสัญญาณ เมื่อทดสอบด้วยการวางห่างจากตัว Access Point เป็นระยะทาง 5 m ผลที่ออกมานั้น ปรากฏว่าสามารถจับได้นิ่งและเต็ม 100% ถือว่าทำได้ดีกว่า Toshiba ของ Review ฉบับที่ผ่านมา เมื่อทำการทำสอบแบบเดียวกัน
8.ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon
การ ทดสอบจะทำโดยการนำมาใช้งานทั่วๆไป ได้แก่ เล่น internet ผ่าน Wireless LAN, พิมพ์งานในโปรแกรม MS Office, ฟังเพลง, ดูคลิป video ต่างๆ จากเว็บ Youtube ครับ ทั้งหมดนี้ใช้งานโดยปรับแสงและเสียงไปที่ระดับสูงสุดครับ ผลที่ออกมาถือว่ากินพลังงานค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หากเทียบกับ Notebook แบบประหยัดพลังงาน แต่หากใช้งานกันอย่างประหยัดๆแล้วล่ะก็ น่าจะทำเวลาได้ถึง 3 ชั่วโมงกว่าๆได้อย่างสบายๆครับ สำหรับเวลาในการชาร์จไฟนั้น ถือว่าทำได้ไม่ขาดทุนครับ เพราะใช้ระยะเวลาในการชาร์จพอกับระยะเวลาที่ใช้ได้ แต่สำหรับบางยี่ห้อนั้น จะเสียเวลาชาร์จมากกว่าเวลาที่ใช้ได้จริงครับ
9.วัดอุณหภูมิของเครื่องด้วย Hardware Monitor
อุณหภูมิของตัวเครื่องนั้นถือว่าร้อนอย่างน่าแปลกใจในสภาวะ Full Load เนื่องจากหากเราพิจารณาจากช่องระบายอากาศตามตัวเครื่องที่มีมากมายหลายจุดแล้ว อุณหภูมิที่สูงขึ้นถึงกว่า 30 องศาจากสภาวะปกตินั้น ถือว่าระบบระบายความร้อนยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ในส่วนของอุณหภูมิเมื่อใช้งานในสภาวะปกติก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ร้อนเกินกว่าที่ควรจะเป็นครับ
10.ระบบเสียง
แม้ว่าจะมีลำโพงเพียงแค่สองตัวที่มีขนาดไม่ใหญ่นักติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของหน้าจอ แต่ระดับความดังที่ออกมาจาก Fujitsu เครื่องนี้ ก็สามารถสร้างความประหลาดใจให้กับผมได้อีกหนึ่งจุด เนื่องจากมีความดังที่ไม่แพ้ลำโพงดีๆจาก Notebook ในบางรุ่นเลยทีเดียว แต่ในเรื่องของคุณภาพเสียงนั้นคงต้องบอกกันอย่างตรงๆว่า ไม่ค่อยมีมิติเท่าไหร่ แต่หากจะนำมาใช้งานทั่วๆไปแล้ว ก็ถือว่าน่าจะทำงานได้ดีในระดับนึงเลยทีเดียวครับ
ภาพที่วาดโดยใช้ Stylus ของเครื่อง Fujitsu LifeBook T4310
ใครที่ชื่นชอบ Notebook ประเภท Tablet เป็นชีวิตจิตใจนั้น ก็คงจะมองหาเครื่องที่จะนำมาใช้งานได้ยากกว่า Notebook แบบธรรมดาซักหน่อย เนื่องจากจำนวนเครื่องที่มีให้เลือกใช้งานในตลาดนั้น มีน้อยซะเหลือเกิน และกว่าจะออกรุ่นใหม่มาแต่ละที ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะฉะนั้นคงจะเป็นการดีไม่น้อยเลยทีเดียว หาก Tablet ที่ได้เลือกซื้อ มี Spec ที่สูง เพราะจะได้ใช้งานกันอย่างยาวๆ และสำหรับ Fujitsu T4310 เครื่องนี้นั้น แม้จะไม่ได้มี Spec ที่รวดเร็วทันใจเหมือนๆกับ Notebook รุ่นใหม่ๆที่วางจำหน่ายกันอยู่ แต่จากผลคะแนนที่ได้ทดสอบออกมาแล้วนั้น ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพที่สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว สำหรับการทำงานทั่วๆไป นอกจากนี้การที่มีหน้าจอเป็นระบบสัมผัสแบบใหม่นี้ ก็ยิ่งทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะการสั่งงานสามารถทำได้จากปลายนิ้วมือ ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพา Stylus เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
สรุปแล้วใครที่กำลังมองหา Tablet เครื่องใหม่ซักเครื่อง หรือกำลังจะหันมาลองใช้ Tablet PC Fujitsu เครื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกเครื่องที่คุณจะต้องไปลอง ก่อนจะตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่าจะซื้อตัวไหนดี เพราะด้วยประสิทธิภาพและ Feature ที่น่าสนใจต่างๆมากมาย ถือได้ว่าเป็น Tablet อีกตัวที่ไม่เป็นสองรองใครเลยล่ะครับ
จุดเด่น
ข้อสังเกต
Design | 7 |
Performance | 7 |
Feature | 8 |
Value | 6.5 |
Overall | 7.1 |
Technical Spec | |
CPU |
Intel® Core2™ Duo Processor T6600(2.20GHz, 2MB L2, 800MHz FSB)
|
Chipset |
Mobile Intel® GM45 Express Chipset
|
Memory |
2GB DDR3 1066MHz
|
Harddisk |
320GB
|
Graphic & Display | |
Graphic |
Intel® Graphics Media Accelerator 4500M HD
|
Display |
12.1" inch WXGA TFT with dual digitzer, 1280 x 800 pixels
|
Software | |
Operating System |
Windows 7 Home Premium
|
I/O Interface | |
HDMI |
Yes
|
Firewire |
Yes
|
VGA Out |
-
|
PCI Express |
Yes
|
E-SATA |
-
|
Fingerprint |
Yes
|
USB |
3
|
Card Reader |
5 in 1
|
Communication | |
Wireless Lan |
Intel® Wireless WiFi Link 5300
|
Lan |
Yes
|
Modem |
-
|
Web Cam |
2 Mega Pixels
|
Feature | |
-
|
|
Battery | |
6 Cells Li-Ion
|
|
Weight | |
2 kg.
|
|
Warranty | |
1 Year
|
|
Price | |
59,900 บาท
|