สำหรับในวันนี้ Netbook ที่จะนำมาให้คุณๆ ทั้งหลายที่ชอบท่องโลกไซเบอร์ ได้ชมกันนั้นเป็นของยี่ห้อ ASUS ในตระกูล Eee PCครับ เรียกว่าออกมาหลายซีรี่ยส์กันซธเหลือเกินนะเนี่ย อย่างก่อนหน้านี้รุ่นที่เรานำมาแนะนำนั้นว่าเจ๋งแล้วครับกับเทคโนโลยีชิพเซ็ต AMD Congo MV40 (1.6GHz) เรียกว่าเป็นเน็ตบุ๊กศักยภาพสูงเลยกับ Asus Eee PC 1201T แต่ตัวที่นำมาให้ดูนั้นเจ๋งกว่าครับ Asus Eee PC 1215  ที่มากับ CPU  1.8GHz dual-core Intel Atom D525 processor และ NVIDIA Optimus ที่สามารถสลับการทำงานระหว่าง NVIDIA Ion discrete และ Integrated graphics ซึ่งจัดว่าเป็น Netbook ในตระกูล Eee PC ที่มาแรงกว่าใครและเชื่อว่าจะต้องทำให้ตลาดเน็ตบุ้คกลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอนครับ ก็ตรงที่วัสดุตัวเครื่องที่ใช้นั้นทำมาจากเมตาริค แข็งแรงทนทาน USB 3.0 ที่โอนถ่ายข้อมูลได้เร็วทันใจกว่าใคร .ใช้งานได้ยาวนานกว่าใครถึง 3 – 4 ชั่วโมง จึงพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจจริงๆ ครับ

Spec ของเครื่องกันก่อนเลยดีกว่า

ASUS Eee PC 1215N Detailed Specs:

• Intel Atom D525 dual core processor
• 12.1-inch LED backlit display (1366×768 resolution)
• 2GB DDR3 RAM
• 320GB HDD
• NVIDIA ION 2 with Optimus technology
• 802.11b/g/n WiFi
• Bluetooth 3.0
• 1.3-megapixel webcam
• 2 USB 3.0 ports
• USB 2.0 Sleep’n’Charge port (also found on Toshiba T200 series)
• HDMI port
• VGA out
• SD/MMC card reader
• 6-cell battery
• Windows 7 Home Premium

   Spec แบบนี้คงต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดากันเลยทีเดียวเมื่อดูที่ราคาขายแล้วนั้น รับรองว่า Asus ตัวนี้ ไม่ขี้เหร่และอาจจะเหนือกว่าเน็ตบุ้คยี่ห้ออื่นๆอย่างแน่นอน ตัวเครื่องที่ได้มาก็มี Window 7 ในตัวซะด้วยสิ  เรามาดูในส่วนประกอบต่างๆ ของตัวเครื่องกันดีกว่าว่ามีช่องเสียบอะไรบ้างและมีกี่ช่องครับ

Desing

    Asus เปลี่ยนมาใช้วัสดุอย่าง materially ฝาตัวเครื่องจึงไม่เงางามกว่ารุ่นที่ผ่านมา แต่ก็ดูโดดเด่นสะดุดตาไม่แพ้กันเลยครับ   บริเวณฝาพับด้านหน้านั้น ไม่ต้องมีการเล่นลวดลายให้ยุ่งยาก ก็ดูสวยได้ บริเวณขอบของด้านซ้ายและขวานั้นมีดีไซน์ที่โค้งมน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ โลโก้แบรนด์อย่าง Asus ครับ เช่นเดียวกันกับตัวเครื่องด้านล่างยังใช้วัสดุเดียวกับฝาพับด้านหน้า

ด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้น  ประกอบไปด้วย ช่องเสียบสายไฟจาก Adaptor ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ VGA ของ Port สีดำ ช่องเสียบ HDMI ช่องเสียบ USB ช่องระบายความร้อนจากตัวเครื่อง และช่องสุดท้าย เป็น Card Reader รองรับเฉพาะ SD Card และ Micro Sd ครับ

บริเวณด้านขวาประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อที่ Lock Kensington, ช่องสำหรับเชื่อมต่อสาย LAN, ช่องเสียบUSB ช่องที่ 2 ,ช่องเสียบสายไมโครโฟน, ช่องเสียบสายต่อกับหูฟัง

 

ใต้เครื่องดีไซน์แบบเรียบๆ พร้อมช่องระบายอากาศ พร้อมที่ติดตั้งของ ลำโพง นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่เท่านั้นครับ

ความหนาของตัวเครื่องถ้ามองแบบเผินๆ จากด้านข้างถือว่าบางพอสมควรเพราะไม่ถึง 1 นิ้วเลยครับ เคลื่อนย้ายไปมาก็สะดวกเพราะน้ำหนักเบา

ส่วนของด้านในของตัวเครื่อง ยกเว้นบริเวณที่วางมือของตัวเครื่อง นอกนั้นวัสดุที่ใช้จะเป็นแบบมันวาวทั้งแผงคีย์บอร์ด และจอ LCD เดี๋ยวเราไปไล่ดูทีละส่วนเลยดีกว่า

 



    เริ่มด้วยหน้าจอแบบ LED Backlight  ขนาด 12.1” จอเป็นแบบชนิดกระจกใส สะท้อนเงาของสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจนเลยครับ แต่ก็อย่างว่าของสวยๆ งามๆ นี่มันก็เป็นข้อเสียอีกด้วยครับ เมื่อเรานำไปใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างมากๆ หรือแสงตกกระทบมาจากด้านหลัง จะทำให้เกิดเงาสะท้อนและความสว่างของจอก็จะลดลงไป จึงทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างยากลำบาก (แต่ส่วนใหญ่คงจะไม่ค่อยมีใครไปนั่งใช้ทำงานที่ร้อนๆ แดดจัดๆ ละครับ )  หน้าจอมีความละเอียดสูงสุด WXGA Screen 1366 x 768 Pixels   ในส่วนของกล้องเว็บแคมความละเอียดค่อนข้างน้อยเพียงแค่ 300,000  Pixels พร้อมไฟแสดงสถานะการใช้งาน ใกล้ๆ กันไมโครโฟนครับ

   

    ตัวคีย์บอร์ด เป็นสีดำมันวาว  ซึ่งค่อนข้างจะกลมกลืนไปกับตัวเครื่อง ปุ่มคีย์บอร์ด  Chiclet ปุ่มแต่ละปุ่มจะถูกแยกออกจากกัน ถูกยกลอยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างคล่องแคล่ว และแม่นยำ ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างชอบเลยครับ นอกจากนี้บริเวณเหนือปุ่มคียบอร์ดฝั่งซ้ายยังมีปุ่ม Instant Wi-Fi ที่กดปุ่มเมื่อไหร่ก็สามารถใช้งานไวไฟได้รวดเร็วทันใจเลยทีเดียว  

  
 
   ถัดลงมาจะเป็นในส่วนของพื้นผิวของ Touchpad บริเวณพื้นที่ที่เป็นของ Touchpad ในเรื่องของความกว้างของพื้นที่ใช้งานถือว่ากว้างมากพอตัวเลยครับ ทดลองใช้งานจริงไม่มีติดขัดเลย ไหลลื่นดีมากปุ่มคลิกที่อยู่ใต้ Touchpad นั้น มีการเลือกใช้วัสดุเป็นแบบโลหะมันวาว ปุ่มคลิกมีขนาดที่ใหญ่ ตอบสนองต่อแรงกดอย่างดีเยี่ยม

บานพับของตัวเครื่องดูเล็กและบอบบางพอสมควรเลยครับ แต่ก็สามารถเปิดปิดได้อย่างง่ายดาย ไม่มีความฝืดเคืองจนต้องออกแรงมาก


 Performance
    สำหรับ Asus Eee PC 1215 เครื่องนี้จะมี Spec ที่มากับ CPU  1.8GHz dual-core Intel Atom D525 processor และ NVIDIA Optimus ที่สามารถสลับการทำงานระหว่าง NVIDIA Ion discrete และ Integrated graphics นั่นหมายความว่าการแสดงผลที่ความละเอียดสูงถึง 1080p ก็สามารถทำได้อย่าไม่มีปัญหากับหน้าจอขนาด 12″ 1,366×768 pixel และยังสามารถต่อไปยัง HDTV ผ่าน port HDMI ได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Hard Drive มากถึง 500GB, RAM ขนาด 4GB แบบ DDR3, หน้าจอขนาด 12.1" ความละเอียด HD 1366 x 768 pixel, 10/100 Mbps LAN, 802.11 Wi-Fi, webcam ความละเอียด 0.3MP และ Battery ขนาด 6-cell  

Feature

     Super Hybrid Engine

           นอกจากประสิทธิภาพที่ร้อนแรงแล้ว Asus ยังมีจุดขายที่เรื่องการประหยัดพลังงานในการใช้งานต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ Asus Eee PC 1215 ที่ดึงจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานอีกเช่นกันด้วยกับเทคโนโลยี Super Hybrid Engine ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการงานให้สูงขึ้น รวมไปถึงประหยัดพลังงานได้อย่างดีด้วย ทำให้คุณไม่ต้องพกพาอแดปเตอร์ติดตัวมาให้เกะกะและหนักกระเป๋า นอกจากนี้รุ่นนี้ยังแอบบรรจุพอร์ต USB 3.0 มาให้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณโอนไฟล์ได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า 

Asus web storage
     Asus Eee PC 1215 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 7 Starter แล้ว ยังให้คุณใช้งานได้แบบด่วนๆ โดยไม่จำเป็นต้องบู้ตเข้าวินโดวส์ก็สามารถใช้งานในเบื้องต้นได้ทันทีด้วย Asus Express Gate ซึ่งหากคุณต้องการท่องอินเตอร์เน็ตทันทีโดยไม่อยากเสียเวลาบู้ตเครื่อง ก็สามารถใช้งานได้เลยในทันที และไม่ได้มีเพียงแค่การท่องอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวเท่านั้น คุณยังสามารถเข้าไปใช้งาน Skype หรือแม้กระทั่งดูรูปภาพ รวมไปถึงเล่นเกมออนไลน์ได้ในทันทีเช่นกัน นอกจากนี้อินเตอร์เฟซการใช้งานก็ออกแบบมาดูเรียบง่าย และคุณสามารถเข้าใจและใช้งานได้ในทันที

หลังจากที่เราได้รับทราบของเจ้า Asus Eee PC 1215   คราวนี้เรามาดูกันที่คะแนนกันครับว่า แต่ละโปรแกรมเขาให้ค่าเทสของ Asus Eee PC 1215  เท่าไรกันบ้างครับ

แต่ก่อนอื่นใดต้องเริ่มจากโปรแกรม CPU Z ก่อนครับ เพื่อตรวจสอบว่าสเป๊คตัวเครื่องตรงกันหรือไม่

CPU Z

 

 

 

CPU MARK



3D MARK 06

   ในส่วนของด้านกราฟฟิกเป็นเร่องปกติอย่างแน่นอนที่เน็ตบุ้คไม่มีทางที่จะตอบโจทย์การใช้งานทางด้านนี้เลย ดังนั้นถ้าคุณยังฝืนที่จะเล่นอาจจะได้พบกับคำว่ากระตุก และเล่นไม่ได้เลยก็เป็นได้ แต่สำหรับ Asus Eee PC 1215 ที่นำเอา NVIDIA ION 2 with Optimus technology มาไว้ในตัวเครื่องทำให้สามารถเล่นเกมส์ได้แต่อาจจะจะต้องปรับค่า setting ต่างๆ ให้เป็น LOW บ้าง เพื่อไม่ให้การเล่นสะดุด  สำหรับในส่วนของคะแนนจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D MARK 06 นั้น

. ทดสอบประสิทธิภาพของ Hard Drive ด้วย HD Tune

ทดสอบประสิทธิภาพของ Battery ด้วย Battery Mon

     อัสซุสได้เลือกใช้แบตเตอรี่ประเภทที่บางและรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Super Hybrid Engine ที่จะช่วยให้คุณบริหารการใช้พลังงานในเครื่องได้อย่างดียิ่งขึ้น ดังนั้นสำหรรับการใช้งานโดยทั่วๆ ไปนั้น สามารถใช้งานได้ยาวนานจริงๆ และยังทำให้คุณไม่ต้องพกพาอแดปเตอร์ติดตัวมาให้เกะกะและหนักกระเป๋าโน้ตบุ๊กเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานขนาดนี้จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชอบพกพาเน็ตบุ๊กเพื่อเป็นเพื่อนเดินทางอย่างแท้จริง และถึงแม้อัสซุสจะเคลมไว้ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงนั้นทำได้ใกล้เคียงเลยทีเดียว ตรงนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้งานนั่นเอง

ทดสอบประสิทธิภาพของโปรแกรม AquaMark

Summary

 นับว่าเป็นเน็ตบุ้คที่โดดเด่นและน่าใช้งานมากกว่าใครเพื่อนเลยทีเดียว แอบเซอร์ไพร้มากๆ กับการนำ NVIDIA ION 2 with Optimus technology ที่สามารถสลับการทำงานระหว่าง NVIDIA Ion discrete และ Integrated graphics ทำให้การใช้งานกับตัวเครื่องเพิ่มระยะเวลาได้ยาวนานมากขึ้น รวมถึงวัสดุที่ใช้ก็สุดยอดจริงๆ แต่สุดท้ายก็ต้องมาดูกันว่าราคาขายของรุ่นนี้จะสูงตามประสิทธิภาพของมันหรือเปล่า